Summary from Broadcast Panel’s meeting today on various issues.
สรุปผลการประชุมบอร์ด กสท. วันนี้หลายวาระมาก สำคัญด้วย ดังนี้ค่ะ
1.บอร์ด กสท. มีมติให้ สนง.เสนอบอร์ดกองทุน กทปส. ขอ สนับสนุนการสำรวจระบบการวัดเรตติ้งใหม่ ที่เสนอโครงการมาโดย สถาบันวิจัยเพื่อพัฒนาสื่อ (MRB ) สถาบันวิจัยเพื่อพัฒนาสื่อ (MRB) เป็นการร่วมมือกันของสมาคม/ชมรมที่เกี่ยวข้องกับกิจการโทรทัศน์และ โฆษณา โดยที่ผ่านมาได้เปิดให้เอกชนมาประมูลงานวิจัยและพัฒนา มีบริษัทสำรวจเรตติ้งโทรทัศน์ระดับโลกจากเยอรมัน ญี่ปุ่น และ อังกฤษ เข้าประมูลงานกับสถาบันวิจัยเพื่อพัฒนาสื่อ (MRB) ผลออกมาคือบริษัทจากอังกฤษชนะการประมูล คือบริษัท Kantar Media ซึ่งจะทำการวัดเรตติ้งที่เป็นระบบ Multi-screen ส่วนบริษัท เอซี นีลเส็น เจ้าเดิมหลักที่ให้บริการข้อมูลเรตติ้งในประเทศไทย ทราบมาว่าไม่ได้เข้าร่วมประมูลกับสถาบันวิจัยเพื่อพัฒนาสื่อ (MRB) ครั้งนี้แต่อย่างใด การลงทุนวางระบบวัดเรตติ้งใหม่ต้องใช้ทุนจำนวนมาก ทางสถาบันฯจึงยื่นขอส่วนหนึ่งจากกองทุน กสทช. มาที่ กสท. วันนี้ แต่ก็ต้องไปผ่านบอร์ดกองทุน กทปส. และบอร์ดใหญ่อีก จากมติวันนี้ ทาง สนง. จะส่งเรื่องไปยังบอร์ด กองทุน กทปส. ซึ่งจะกลั่นกรองการให้ทุนรอบแรก จากนั้นจะส่งเรื่องเข้าบอร์ดใหญ่ กสทช.ตัดสินสุดท้าย
2. วาระด้านเนื้อหา บอร์ด กสท. มีมติ 3:2 ให้ส่งจดหมายทางปกครองเตือนช่อง 7 ออนแอร์คลิปข่าวขัดมาตรา 37 ขัดศีลธรรมอันดีเสื่อมทรามจิตใจ กรณีทรมานสัตว์และไฟคลอก กรณีนี้ ดิฉันอยู่ฝ่ายข้างมาก3เสียง ที่ลงมติให้เตือนช่อง 7 เรื่องออนแอร์คลิปข่าว *คนโยนแมวให้จระเข้กิน และข่าว*คนถูกไฟคลอก แบบไม่เบลอ ถ้าดูมาตรฐานข่าวโทรทัศน์ของต่างประเทศ เขาจะไม่ปล่อยภาพข่าวการทรมานสัตว์อย่างโจ่งแจ้งหรือภาพข่าวคนถูกไฟคลอก ออกสื่อชัดแบบ HD ขนาดนั้น
ทว่า คลิปข่าว โยนแมวให้จระเข้กินและภาพคนถูกไฟคลอกแบบระยะใกล้ชัดเจนนี้มี กสท. 2 ท่าน ลงมติว่าไม่ผิดมาตรา 37 แต่กรณีนี้ดิฉันเห็นว่าผิด อย่างไรก็ตาม รอบนี้ กสท.เสียงข้างมากจึงให้มีมติตักเตือนช่อง7ก่อน ยังไม่ได้ใช้โทษปรับ และให้เชิญทุกช่องมาทำความเข้าใจร่วมกันเรื่องคลิปข่าว ระยะหลัง ช่องทีวี นำคลิปข่าวมาออนแอร์ในช่วงข่าวมากขึ้น โดยไม่ได้กลั่นกรองให้รอบคอบ อาทิคลิปเด็กตบกันรุนแรง แม้ดูในเน็ตได้ ใช่ว่าควรออกทีวี คลิปข่าวประเภทเห็นภาพการทรมานสัตว์ ทรมานคน หรือภาพรุนแรงชัดเจน แม้อาจหาดูทางอินเทอร์เน็ตได้ ก็ใช่ว่าจะออนแอร์หน้าจอทีวีได้ ฝากทุกช่องด้วยค่ะ
ข่าวที่เสนอภาพการทรมานสัตว์ กับ สารคดีธรรมชาติที่เสนอวงจรชีวิตของสัตว์ที่อาจกินกันเองนั้น ไม่เหมือนกัน มาตรฐานสากลเขาระวังภาพข่าวแบบนี้มาก ภาพข่าววิดีโอไฟไหม้สวนน้ำในไต้หวัน ที่ปรึกษาดิฉันลองค้นคลิปข่าวของอังกฤษดู เขาไม่เสนอภาพซูมเห็นคนถูกไฟคลอกในระยะใกล้เหมือนข่าวในช่อง 7คลิปนี้ จริงๆอนุกรรมการด้านเนื้อหาฯเสนอให้ปรับช่อง7 แต่เคสนี้เสียงไม่เอกฉันท์ อภิปรายกันไปมา เลยสรุปให้ส่งจดหมายเตือนทางปกครองก่อน ครั้งต่อไปจะปรับ
นอกนั้นจาก มติ กสท. ให้ สนง.เชิญทีวีทุกช่องมาทำความเข้าใจอีกครั้งเรื่องแนวทางการนำคลิปข่าวต่างๆมาออนแอร์โดยเฉพาะคลิปที่ผลิตซ้ำความรุนแรง ปรกติ ดิฉันไม่ค่อยเห็นด้วยในการลงโทษตามมาตรา 37 พร่ำเพรื่อ โดยเฉพาะถ้าเป็นเสรีภาพการแสดงความคิดเห็น แต่ถ้าภาพข่าวรุนแรง ทรมานชัดเจน จะให้ผิด กรณีคลิปข่าวโยนแมวให้จระเข้กินในบ่อ รอบนี้ก็เข้าข่ายขัดมาตรา37 ทั้งเรื่องศีลธรรมอันดีและ เสื่อมทรามจิตใจ แต่ถ้าช่อง 7 ไม่เห็นว่าผิดก็แย้งได้ ถ้าใครเห็นคลิปแนวรุนแรงแบบนี้ออนแอร์ในทีวีช่องใดอีก ก็โทรร้องเรียนได้ที่1200ค่ะ เรื่องก็จะเข้าสู่กระบวนการพิจารณา เช่นเดียวกับเรื่องวันนี้
3. มีเคสร้องเรียนช่อง3ด้วย ละครน้องใหม่ร้ายบริสุทธิ์ตอน ‘พลาด’ มีเนื้อหาว่านักเรียนท้องแล้วมาเรียนได้ตามปรกติแล้วถูกกฎหมาย ว่าเข้าข่ายเนื้อหาไม่เหมาะสม แต่เคสนี้ยกไป ว่ายังไม่ผิดอะไร การที่ละครไทยเริ่มนำเสนอเรื่องราวของวัยรุ่นที่พลาดแล้วท้อง แล้วไปเรียนหนังสือได้ ใช่ว่าจะขัดศีลธรรมอันดีในตัวเอง ขึ้นอยู่กับบทที่นำเสนอด้วย ทางตรงข้าม ถ้านำเสนอได้ดี อาจมีประโยชน์ต่อการเรียนรู้ของเยาวชนด้วย เคสร้องเรียนละครน้องใหม่ร้ายบริสุทธิ์ ในขั้นอนุกรรมการเนื้อหาฯ ก็ลงมติว่าไม่ผิด ดังนั้น ในชั้น กสท. ก็รับทราบและยุติเรื่องไปวันนี้
4. วาระเรื่องร้องเรียนรายการ Tonight Thailand ช่อง @Voice_TV มติ 3:2 ลงว่าขัดประกาศ คสช. กรณีนี้ดิฉันอยู่ฝ่าย 2 เสียงข้างน้อย พิจารณาว่ายังไม่ผิดขนาดนั้น กรณีนี้เป็นการอภิปรายเรื่องการฟ้องร้องตามมาตรา116 และศาลทหาร ดิฉันมองว่ายังไม่เข้าข่ายขัดมาตรา 37 หรือประกาศ คสช. เรื่องปลุกปั่นขัดความสงบเรียบร้อย วาระนี้ก็อภิปรายกันไปมา เสียงก็ไม่เอกฉันท์ออกมา 3:2 ฝ่ายเสียงข้างมาจึงมีมติให้เตือนทางปกครองก่อน ส่วนดิฉันก็สงวนความเห็นต่างไว้ในกรณีนี้ วันนี้เดาใจกรรมการ กสท. เรื่องการกำกับเนื้อหายาก มติโหวตสลับกันไปมา ไม่เอกฉันท์ แต่มีการอภิปรายโต้แย้งกันด้วยเหตุผล ต่างคนต่างดุลยพินิจกัน
5. วาระเรื่องร้องเรียน ช่อง1TV ทีวีดาวเทียมแนวการเมืองเลือกข้าง กสท.เห็นร่วมกันว่าขัดประกาศ คสช.ให้แจ้งเตือนทางปกครอง กรณีนี้ดิฉันก็เห็นด้วย ปรกติดิฉันไม่ค่อยเห็นด้วยเรื่องฐานผิดประกาศ คสช.นัก เพราะอยากให้พิจารณาตามมาตรา 37 ก่อน แต่ รายการ ‘แฉกระจาย’ ที่ได้ดู อันนี้คิดว่าเกินกว่าเหตุ รายการ ‘แฉกระจาย’ นี้ ทางช่อง 1TV เองก็ยอมรับว่าผิดพลาด คุมไม่อยู่เพราะให้คนอื่นเช่าเวลา ดูแล้ว เป็นรายการวิจารณ์การเมืองที่เกินบรรยายเอามากๆ ดูรายการนี้แล้วก็ไม่รู้ว่าจะเป็นวิจารณ์การเมืองหรือบันเทิงกันแน่ ดังนั้น เวลากล่าวหาผู้อื่น จึงดูเป็นการเสียดสี ใส่ความ มากว่าการวิจารณ์ด้วยเหตุผล ในขณะที่นั่งวิจารณ์การเมือง คนดำเนินรายการทั้งคู่ ก็นั่งเล่นจิกเสื้อกันไปมา ดังนั้นถ้าไม่ใช่เป็นการวิจารณ์ด้วยสาระ เหตุผลแต่เอามันเข้าว่า ก็สมควรโดนตักเตือน
ดิฉันไม่ได้ดูทีวีดาวเทียม เพราะไม่ติดจานที่บ้าน ได้ดูคลิปรายการต่างๆเมื่อมีวาระร้องเรียน บางช่องประหลาดมาก ไม่นึกว่าจะมีคนชอบดู ขอบคุณทุกท่านที่ช่วยร้องเรียนเข้ามาค่ะ
จากที่ได้ดูคลิปรายการช่อง 1 TV วันนี้ยังพบประเด็นที่อาจเข้าข่ายโฆษณาที่กระทบ เอาเปรียบผู้บริโภคด้วย กสท. ได้มอบ สำนักด้านคุ้มครองผู้บริโภครับไปตรวจสอบและเข้าอนคุ้มครองผู้บริโภคต่อไป
รายการแนวการเมือง กสท.บางท่านมองว่าการวิจารณ์เชิงวิชาการที่แม้พูดสุภาพแต่ลึกซึ้งนั้น น่ากลัวกว่าช่องที่พูดภาษากากๆ จึงตัดสินว่าผิด แต่ดิฉันมองต่าง
ดุลยพินิจดิฉัน รับได้กับการวิจารณ์การเมืองด้วยเหตุผล แม้เป็นเชิงวิพากษ์แรง ลึก แต่จะรับไม่ได้ถ้าใช้ภาษาหยาบคาย กากๆไร้รสนิยมในการใส่ร้ายคนอื่น
วันนี้ก็อภิปรายถกเถียงกันเหมือนทุกครั้ง สุดท้ายต่างคนก็ต่างมีดุลยพินิจของตนเอง บางเรื่องดิฉันเห็นว่าผิด บางเรื่องว่าไม่ผิด คนอื่นก็เช่นกัน
กระนั้นเอง ในเรื่องที่ดิฉันเห็นว่าผิด แต่ถ้ายังไม่ถึงขั้นรุนแรงมาก ก็จะให้ความเป็นธรรมกับช่อง ด้วยการไต่ระดับลงโทษเป็นขั้นบันได
วันนี้แม้ กสท.จะโหวตสวนกันไปมาทั้ง3กรณี และ มติสุดท้าย คือให้ออกจดหมายเตือนทางปกครองต่อทั้ง 3 ช่อง ดังนั้นครั้งถัดไปโทษก็จะสูงขึ้นได้แล้ว
อีกเส้นแบ่งหนึ่งที่ดิฉันจะนำมาพิจารณาคือ รายการนั้นทางผู้ดำเนินรายการหรือช่องแสดงความเห็นเองเออเองหรือเป็นเพียงผู้ดำเนินรายการซักถาม เป็นต้น
6. อีกวาระสำคัญวันนี้ ก็คือ กสท. มีมติให้ สนง. แจ้งผู้ให้บริการโครงข่ายทีวีดาวเทียม- เคเบิล ดำเนินการแจ้งช่องรายการให้โฆษณาตามที่กฏหมายกำหนดในมาตรา 28 และ ประกาศเอาเปรียบผู้บริโภคฯ
เรื่องนี้ถกกันมาสักระยะแล้ว แต่ทางผู้ประกอบการดาวเทียม-เคเบิลก็ค้าน กสทช.ในหลายมิติ แต่วันนี้บอร์ด กสท. มีมติให้ สนง. เชิญโครงข่ายมาชี้แจงแล้ว
แนวทางของ กสท. วันนี้ ก็คือให้โครงข่ายดำเนินการกำกับช่องทีวีในดาวเทียม เคเบิล ที่อยู่นอกกฏ Must carry ให้โฆษณาตามเวลาที่กฏหมายกำหนดไว้
ทาง สนง. จะเชิญ ผู้ให้บริการโครงข่ายดาวเทียม และ เคเบิล มาชี้แจงมติเร็ววันนี้ค่ะ เพื่อความชัดเจนในการคุ้มครองผู้บริโภคและการแข่งขันที่เป็นธรรม
วาระนี้อาจจะยืดเยื้อยาวนาน จนต้องไปศาลอีก แต่ก็ถือว่าวันนี้บอร์ด กสท. มีมติชัดเจนสักที หลังคลุมเครือมานาน และ เป็นเอกฉันท์ด้วย #เวลาโฆษณาช่องที่อยู่นอกกฏ#MustCarry
7. บอร์ด กสท. เห็นชอบการปรับแผนการวางโครงข่ายทีวีดิจิตอล (MUX) สถานีเสริม A1 ตามความเหมาะสมของการใช้คลื่นความถี่+สถานีส่ง แต่มีเงื่อนไขโครงข่ายต้องครอลคลุมครบร้อยละ 90 ตามแผนปีที่ 3 ระบุไว้เดิม ทาง @ThaiPBS ขอปรับขยับแผนการยุติสถานีแอนะล็อกที่เกาะสมุยและไชยปราการ จากกันยายนเป็นธันวาคม เพราะต้องเจรจาการใช้เสา+สถานีของ CAT ด้วย แผนการยุติทีวีแอนะล็อก จะมาขยายในสัปดาห์นี้ มีนัดไปหารือผู้ว่าสุราษฎร์ธานีและเชียงใหม่ และหน่วยอื่นๆ พัฒนาเป็น เกาะสมุยโมเดล ไชยปราการโมเดล นำร่องยุติต่อไป
พรุ่งนี้บ่าย มีประชุมบอร์ด กสท. นัดพิเศษ พิจาณาการปรับเพิ่มงบประมาณ กสทช. ครึ่งปีหลังของ 2558 ขอ เพิ่มงบเรื่องเปลี่ยนผ่านทีวีแอนะล็อกสู่ดิจิตอลด้วย ถ้าเรื่องการปรับงบประมาณกลางปี ผ่านบอร์ด กสท. นัดพิเศษพรุ่งนี้แล้ว จะต้องส่งเข้าบอร์ดใหญ่ เพื่อเห็นชอบสุดท้ายต่อไป ไว้มาเล่าเพิ่มเติมค่ะ
……..
ช่องที่วิจารณ์การเมืองแนวกากๆ ใช้ภาษาไม่สุภาพ ใช้อารมณ์ไม่ใช้เหตุผล คงถูกมอนิเตอร์เป็นพิเศษ ขอให้ปรับตัว ถ้าเคสแบบนี้เข้ามา ดิฉันจะไม่ช่วยปกป้อง ดิฉันจะปกป้องช่องที่โดนร้องเรียน แต่นำเสนอข้อมูล ความเห็น วิพากษ์วิจารณ์ บนฐานเหตุผล เพื่อประโยชน์สาธารณะ ตามกรอบสิทธิเสรีภาพที่สื่อพึงทำและควรทำได้ ทิ้งท้ายว่า สำนักงาน จะเชิญช่องทีวีและโครงข่ายมาชี้แจงและพูดคุยเร็วๆนี้สองเรื่องใหญ่ คือการโฆษณานอก Must carry ในดาวเทียม + เคเบิล และการกำกับเนื้อหาภาพรวม
ตามนี้นะคะ พอสังเขป ยังมีรายละเอียดอีกมาก แต่ดึกแล้ว ไว้ค่อยมาทยอยเล่าเพิ่มเติมค่ะ