ในการประชุม กสทช. นัดพิเศษ 4/59 วันพุธที่ 31 ส.ค. 59 นางสาวสุภิญญา กลางณรงค์ ได้ขอเปิดเผยความเห็นในการพิจารณาวาระ 5.1 การพิจารณาอนุมัติงบประมาณรายจ่ายกลางปี ประจำปี 2559 และเห็นชอบประมาณการรายรับ และกรอบวงเงินงบประมาณรายจ่ายประจำปี 2560 พร้อมมอบนโยบายการจัดทำงบประมาณรายจ่ายประจำปี 2560 จึงขอเปิดเผยความเห็นเพิ่มเติมประกอบการพิจารณา ดังนี้
“สืบเนื่องจากคณะอนุกรรมการพิจารณางบประมาณฯ ได้มีการพิจารณากลั่นกรองงบประมาณรายจ่ายกลางปี ประจำปี 2559 โดยมีคำของบประมาณรายจ่ายเพิ่ม จำนวน 380.276 ล้านบาท จัดสรรงบประมาณเงินงบกลางกรณีฉุกเฉินและจำเป็นเพิ่ม จำนวน 95.955 ล้านบาท ปรับลดงบประมาณรายจ่ายจำนวน 476.231 ล้านบาท ทั้งนี้ยังอยู่ภายใต้กรอบวงเงินตามแผนงบประมาณที่อนุมัติไว้เดิม จำนวน 5,673.849 ล้านบาท นั้น ดิฉันขอเปิดเผยความเห็นดังต่อไปนี้
1. ดิฉันเห็นว่า การใช้จ่ายของ สำนักงาน กสทช. จำเป็นต้องผ่านการกลั่นกรองในระดับต่าง ๆ
อย่างรอบคอบ เพื่อให้สอดคล้องกับแผนยุทธศาสตร์และตัวชี้วัด รวมทั้งการจัดทำคำขอตั้งงบประมาณรายจ่ายควรใกล้เคียงกับรายจ่ายที่น่าจะเป็นจริงมากที่สุด ดังนั้นการจัดทำโครงการใดๆ จึงควรได้รับการวางแผนจัดลำดับก่อนหลังตั้งแต่ขั้นตอนของการจัดทำงบประมาณประจำปีและมีแผนปฏิบัติการรองรับ สำหรับการพิจารณาการอนุมัติงบประมาณรายจ่ายกลางปี ควรเป็นโครงการที่มีความจำเป็นเร่งด่วนอย่างแท้จริงและควรเป็นโครงการ
ที่ดำเนินการให้เสร็จสิ้นภายในปีงบประมาณ ซึ่ง กสทช.ควรมีแนวนโยบายที่ชัดเจนในเรื่องนี้ ทั้งนี้ดิฉันมีข้อสังเกตว่า หลายโครงการที่นำเสนอในที่ประชุม กสทช. ครั้งนี้มิได้เข้าข่ายความจำเป็นเร่งด่วน อาทิเช่น โครงการศึกษาหลายโครงการ และบางกิจกรรมเข้าข่ายงบประจำที่ควรอยู่ในแผนปฏิบัติงานประจำปีมากกว่า
เช่น การดำเนินการจ้างเหมาพัฒนาระบบการเชื่อมโยงข้อมูลภายใต้หมวดค่าจ้างเหมาบริการ เป็นต้น อีกทั้งยังพบว่า หลายโครงการผูกพันงบประมาณข้ามปี ซึ่งพบในโครงการของทั้งฝั่งกิจการกระจายเสียงฯ และกิจการโทรคมนาคม ซึ่งประเด็นนี้ได้มีการอภิปรายหลายครั้งในที่ประชุม และจากการอนุมัติงบประมาณรายจ่ายของสำนักงาน กสทช.ประจำปี 2559 พบว่า มีงบประมาณรายจ่ายผูกพันข้ามปีจำนวน 1,190.259 ล้านบาท ขณะที่การจัดตั้งเงินงบกลางกรณีฉุกเฉินและจำเป็นจากแต่เดิมที่ตั้งไว้ในช่วงต้นปีจำนวน 20 ล้าน ได้เพิ่มจำนวนเป็น 115.955 ล้านบาท โดยยังไม่มีวัตถุประสงค์ชัดเจนในการใช้เงินดังกล่าวแต่อย่างใด
2. การดำเนินการในหมวดรายจ่ายเกี่ยวกับการจัดการและบริหารองค์กรบางรายการ ควรคำนึงถึงประสิทธิผลในการดำเนินการด้วย อาทิ เช่น การขอปรับเพิ่มงบประมาณรายจ่ายในการประชาสัมพันธ์เพื่อเผยแพร่ประชาสัมพันธ์ข้อมูลข่าวสารขององค์กร จำนวน 23.89 ล้านบาท ควรมีเนื้อหาสาระที่เป็นประโยชน์ต่อสาธารณะมากกว่าการมุ่งสร้างภาพลักษณ์องค์กร หรือ ในหมวดรายจ่ายอื่น ที่มีการปรับเพิ่มงบประมาณ การจัดนิทรรศการ NBTC Pavilion ในงาน ITU Telecom World 2016 จำนวน 20 ล้าน ซึ่งก่อนหน้านี้ ในการประชุม กสทช.ครั้งที่ 3/2559
ได้มีการพิจารณาอนุมัติการสนับสนุนงบประมาณในการเป็นเจ้าภาพร่วมจัดงานไปแล้ว 300 ล้านบาท
ดิฉันจึงเห็นว่า ทุกโครงการควรเคร่งครัดในเรื่องกระบวนการจัดซื้อจัดจ้างให้เป็นไปตามระเบียบที่ถูกต้องและคำนึงถึงหลักการประหยัดและใช้จ่ายเงินอย่างมีประสิทธิภาพ
3. เนื่องจากมีการปรับเพิ่มงบประมาณรายจ่ายเกี่ยวกับการสนับสนุนการจัดกิจกรรมของกสทช.
และสำนักงาน กสทช. จำนวน 120.332 ล้านบาท ดิฉันจึงเห็นว่า การสนับสนุนดังกล่าวควรดำเนินการภายใต้ระเบียบที่เกี่ยวข้องอย่างเคร่งครัด
4. การจัดทำเอกสารประกอบการพิจารณาอนุมัติงบประมาณ ดิฉันเห็นว่า สำนักงานควรจะต้องนำเสนอข้อมูลของโครงการและวงเงินงบประมาณที่มีความชัดเจน เข้าใจง่าย ไม่คลุมเครือ และคำนึงถึงความถูกต้องในรายละเอียดทั้งด้านตัวเลขและรายละเอียดของโครงการต่างๆ ตลอดจนชี้ให้เห็นความเชื่อมโยงกับตัวชี้วัดของโครงการกับแผนยุทธศาสตร์ที่เกี่ยวข้อง”