My remarks after Broadcast Panel’s meeting today resulting that I am only a minority again in the decision to suspend Peace TV’s license (literally an opposition media outlet) for 30 days, literally blacking out, effectively in July 10 to August 10 which is covering the referendum day. You know what that means…
Yes, partisan media like PeaceTV or else is not a good idea but rules should have a single standard & practices, a legal sanction should be proportionate as well. Referendum is still a referendum, if it is called so, without two sides of the coin, how public could be well informed before making a decision to determine the future of the country and our lives. If debate is not allowed on TV, at least both voices can be expressed, not totally censored then having only one – sided opinion on the air. However, Peace TV still can take NBTC’s decision to Admin Court, lets see how it will end. Today I asked Broadcast Panel to consider NHRC report on freedom of expression & law enforcement which having a sound recommendations to NBTC on how to regulate partisan media esp under special situation. Panel agreed to consider by sending it to sub-Com on Content to review, but after a decision today. More to come สรุป มติ กสท. วันนี้ เรื่อง Peace TV, CTH, ไทยทีวี ในทวิตเตอร์ ดังนี้ค่ะ นักข่าวโทรมาถามมติกรณี PeaceTV กันให้วุ่น เพราะยังไม่มีแถลงเป็นทางการ จริงๆอยากรอคำแถลงเป็นทางการก่อน แต่จะสรุปให้เบื้องต้นพร้อม คหสต. มติ กสท.4:1 ให้มีการพักใช้ใบอนุญาตช่อง PeaceTV 30วัน โดยไม่ได้ใช้อำนาจตามฐานความผิดมาตรา 37 ของ กสทช. แต่อ้างอิงกฎหมายพิเศษตามข้อตกลงหลัง รปห. ว่าขัดประกาศ คสช. ดิฉันอยู่ฝั่ง 1 เสียงข้างน้อยที่ยืนตามหลักการเดิมมาตลอดว่า กสท.ควรพิจารณาตามกฎหมายปกติของ กสทช.ก่อน เพราะถ้าใช้กฎหมายเฉพาะกิจ อำนาจจะกว้างเกินกว่าเหตุ จากเทปรายการตอนดังกล่าว คหสต.พบว่าเป็นการวิจารณ์ร่างรัฐธรรมนูญ ไม่ได้กระทบความมั่นคงของรัฐขนาดนั้น แต่จะมีลีลาคำพูดที่มีปัญหา ถ้าผิดควรปรับทางปกครอง รายการ PeaceTV ช่วงหนึ่ง มีการปล่อยเสียงเรียกบุคคลอื่นว่า *มัน* ซึ่งไม่สุภาพ ถ้าผิดก็ควรถูกปรับตามมาตรา37ก่อน แต่ยังไม่แรงถึงขั้นปิดสถานีใน#คหสต. ส่วนการเลือกข้างการเมืองในทีวีดาวเทียมที่เห็นได้ชัดเจน เป็นมิติเรื่องจรรยาบรรณ ถ้า กสทช.จะกำหนดแนวทางว่าทำไม่ได้ ทุกช่องก็ควรมีกติกาเดียวกัน มีช่องทีวีอื่นๆ ก่อนหน้านี้ที่เคยมีประเด็นความไม่เป็นกลางทางการเมือง แต่ กสท.ไม่ได้ลงโทษถึงขั้นให้ปิดสถานีชั่วคราว สังคมอาจมองว่าสองมาตรฐานได้ ประเด็นน่าสังเกตคือ วันนี้ กสท.เสียงข้างมากมีมติว่า PeaceTV ทำผิดให้พักใช้ใบอนุญาต 30 วัน แต่ยังไม่ให้มีผลทันที แต่ให้มีผลวันที่ 10 ก.ค. 59 นั่นหมายความว่า การที่ กสท.มีมติให้พักใช้ 30 วัน ถ้าเริ่มมีผล 10 ก.ค.ก็จะครบ 10 ส.ค. ข้อสังเกตคือเลยวันลงประชามติไปราว3วัน #censorship ถ้าจะมองแง่บวกคือมติ กสท.วันนี้ ประณีประนอม คือไม่ถึงกับปิดสถานีไปเลย โดยให้พักออกอากาศจนกว่าจะลงประชามติ ถ้ามองแง่ลบคือการเซ็นเซอร์ความเห็นต่าง คหสต. การแสดงความคิดเห็นทั่วไปเรื่องร่างรัฐธรรมนูญ ควรทำได้ ทั้งฝ่ายหนุนและค้าน บนฐานของเหตุผล และปัจจุบัน กกต.ก็คุมสื่อผ่านกฎหมายประชามติเข้มมากแล้ว แต่ถ้า กสทช. จะไม่ต้องการให้มีทีวีการเมือง ในลักษณะการเลือกข้างแบบนี้เลย ไม่ว่าข้างไหน ก็ควรออกกติกามาใช้เป็นการทั่วไป ตามข้อแนะของ กสม. (คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ) วันนี้ดิฉันได้เสนอให้ กสท.พิจารณารายงานและข้อเสนอของคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ(กสม.) ต่อเรื่องทีวีการเมืองและการใช้อำนาจพิเศษประกอบด้วย โดย กสท. มีมติให้อนุกรรมการด้านเนื้อหาฯ ไปพิจารณาแนวทางเพิ่มเติม ตามรายงานและข้อเสนอจากคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ(กสม.) ดังกล่าวต่อไป “การลงประชามติของประชาชนจะศักดิ์สิทธิ์ เมื่อทุกฝ่ายเคารพกระบวนการนั้น อย่างน้อยคือให้ทั้งสองฝ่ายได้รับทราบข้อมูลทั้งบวกและลบก่อนตัดสินใจอนาคต” ถ้าฝ่ายหนุนมีพื้นที่จำนวนมากในการให้ข้อมูลเรื่องข้อมูลเรื่องรัฐธรรมนูญ ฝ่ายที่ค้านก็ควรมีพื้นที่บ้าง ถ้าเขาล้ำเส้น ควรลงโทษตาม กฎหมายปรกติก่อน เพราะกฎหมายตามปรกติ ไม่ว่าจะเป็นมาตรา 37 ของ กสทช. เอง หรือ กฎหมายประชามติของ กกต. ปัจจุบันก็ถือว่าเข้มข้นในการตีความ บังคับใช้มากพออยู่แล้ว ปล.จริงๆดิฉันไม่อยากทวิตก่อนคำแถลงข่าวทางการของ กสทช. เพราะไม่อยากเป็นคนให้ข่าวว่า กสท.สั่งปิดทีวี แต่นักข่าวโทรมากันมากราย – fyi – อีกทั้ง กสท.ที่เป็นคนมีมติสั่งปิด30วัน ควรเป็นคนออกมาให้ข่าวเองจะดีกว่า จะได้อธิบายให้เหตุผลกับสื่อมวลชนชัดกว่าดิฉัน ฝากสื่อไปถามต่อเองค่ะ ….. ส่วนมติกรณี CTH วันนี้ กสท. ให้ สำนักงานมีจดหมายแจ้งทางปกครองไปยัง CTH ให้ปฏิบัติตามขั้นตอนของกฎหมาย คือต้องแจ้งก่อนล่วงหน้าถ้าจะยกเลิกบริการ ส่วนทาง CTH จะทำตามขั้นตอนของกฎหมายหรือไม่อย่างไร ไว้มาอัพเดทต่อไป ตอนนี้สถานการณ์ยังเงียบมาก เห็นใจสมาชิก แต่จะตามให้ต่อเนื่องค่ะ ขอตั้งข้อสังเกตว่า การบังคับใช้กฎหมายกำกับดูแลของ กสท./กสทช. ถ้าเป็นเรื่องการเมืองจะอัพเลเวลเข้มข้นมาก แต่ถ้าเรื่องผู้บริโภคก็ค่อยๆเจรจาไป ถ้าเป็นเรื่องที่สังคมและผู้บริโภคร้องเรียนมา กสท./กสทช.จะเจรจาพูดคุย ขอให้เอกชนช่วยแก้ปัญหา แต่ถ้าเรื่องการเมืองก็อีกแบบ เร็วและแรงกว่าเสมอ …… วาระอีกเรื่องหนึ่งที่สำคัญมากวันนี้ แต่เพราะไม่มีการแถลงข่าวทางการ สื่อจึงยังไม่ทราบ คือเรื่องที่ทางไทยทีวี ถอนฟ้อง กสทช.ที่ศาลปกครองแล้ว ก่อนหน้านี้ทางไทยทีวีที่ถูกเพิกถอนใบอนุญาต 2 ช่อง เพราะไม่ได้จ่ายเงินค่าประมูลคลื่น แล้วมีการฟ้อง กสทช. วันนี้ใน กสท.รับทราบว่ามีการถอนฟ้องไป ส่วนรายละเอียดอะไร อย่างไร รอให้ สำนักงาน แถลงทางการต่อไป / จริงๆ หลังประชุมต้องมีการแถลงข่าว แต่ สำนักงาน คงยังทำใบแถลงอยู่ รอสักนิดค่ะ ย้ำอีกครั้งว่า ทั้งหมดเป็นการสรุปและคือ #คหสต. เพราะจะได้ตอบทีเดียวเหมือนกัน หลังนักข่าวโทรมาถาม ส่วนมติทางการ รอขอจาก สำนักงานค่ะ @TakornNBTC ส่วนประเด็นการถอนฟ้องของไทยทีวี กรณีทีวีดิจิตอลคืออะไร และ เขาจะฟ้องใหม่อีกไหม ฝากนักข่าวไปถามเจาะต่อค่ะ ส่วนตัวอยากทราบเหตุผลเช่นกัน โปรดติดตามตอนต่อไป…