จับตาวาระ กสท. ถกลงดาบ Z Pay TV เข้าข่ายละเมิดสัญญา เอาเปรียบผู้บริโภค
เตรียมยึดแบงค์การันตีหลังพักใช้ใบอนุญาตไทยทีวี
นางสาวสุภิญญา กลางณรงค์ กรรมการ กสทช. เปิดเผยว่า การประชุมคณะกรรมการกิจการกระจายเสียงและกิจการโทรทัศน์ (กสท.) ครั้งที่ 5/59 วันจันทร์ที่ 8 ก.พ. นี้ มีวาระการประชุมน่าจับตา ได้แก่ การพิจารณามาตรการทางปกครองบริษัทไทยทีวีจำกัด หลังมีคำสั่งพักใช้ใบอนุญาต ช่อง MVTV Family และช่องไทยทีวี กรณีเพิกเฉยไม่ชำระค่าธรรมเนียมค่าประมูลคลื่นความถี่และใบอนุญาตประกอบกิจการโทรทัศน์ภาคพื้นดินในระบบดิจิตอล โดยมีผลตั้งแต่วันที่ 4 ก.พ. เป็นต้นไป หลังครบกำหนดแล้วจะมีการดำเนินการแจ้งเพิกถอนใบอนุญาต และชำระค่าธรรมเนียม ภายใน 30 วันนับแต่ที่ได้รับคำสั่ง มิฉะนั้นจะใช้สิทธิตามกฎหมายเรียกให้ธนาคารกรุงเทพ จำกัด(มหาชน) ผู้ค้ำประกันชำระเงินค่าธรรมเนียมที่ค้างชำระแทนบริษัทต่อไป รวมทั้งดำเนินการแจ้งโครงข่ายต่างๆที่นำสัญญาณช่องออกไปเผยแพร่ตามกฎ Must Carry หรือตามประกาศ กสทช. เรื่องหลักเกณฑ์การเผยแพร่กิจการโทรทัศน์ที่ให้บริการเป็นการทั่วไปยุติออกอากาศ รวมทั้งประเด็นอื่นๆที่เกี่ยวข้องกับการกำกับดูแลตามกฎหมายต่อไป ซึ่งนางสาวสุภิญญา กล่าวว่า ในแง่กฎหมายตอนนี้ถ้าผู้รับอนุญาตไม่สามารถจ่ายเงินค่าประมูล กสท. ก็คงต้องเพิกถอนใบอนุญาตยังไม่สามารถช่วยอย่างอื่นใด แต่อย่างไรก็ตามตนเองเชื่อว่า ถ้า กสทช. เร่งทำงานแก้ปัญหาเช่นเรื่องของการกำกับราคาค่าเช่าโครงข่ายหรือการแจกคูปองให้ครบ 22 ล้านครัวเรือนและการส่งเสริมการประกอบกิจการอื่นเช่นเรื่องการวัดเรตติ้งทางเลือกใหม่ก็จะช่วยทำให้สถานการณ์ของทีวีดิจิตอลรายใหม่เป็นไปได้ดีขึ้น
“ขณะนี้มีข่าวลือมากว่ามีช่องอื่นๆล้มหายตายจากไปไม่รอด ส่วนตัวที่ได้มีโอกาสพูดคุยกับผู้ประกอบการรายใหม่ ส่วนใหญ่บอกว่ายังสู้ ยังไหวอยู่ยังไม่ถอดใจเพียงแต่ต้องการเรียกร้องให้ กสทช.เร่งทำตามสัญญาที่เคยให้ไว้ในเรื่องต่างๆให้ครบถ้วนโดยเร็วที่สุด ก็น่าจะสามารถผ่อนหนักเป็นเบาได้ เมื่อการแข่งขันเข้มข้นรุนแรงขึ้นการกำกับดูแลก็ต้องเป็นธรรม ให้มากขึ้นด้วยรายใหม่ถึงจะแข่งขันกับรายเก่าได้ ส่วนช่องที่ยังเรตติ้งน้อยอยู่ คงต้องยกระดับเนื้อหาให้ตรงกับใจผู้บริโภคมากขึ้น ยุคนี้คนดูฉลาดและมีทางเลือกมากขึ้น คนสร้างสรรค์ทีวีก็จะต้องทำงานหนักขึ้น ก็ขอให้กำลังใจทุกรายเดินหน้าต่อไปได้ราบรื่น และ กสทช. ก็ควรจะเร่งทำตามสัญญาในทุกๆเรื่อง สถานการณ์หลายอย่างก็น่าจะดีขึ้น” สุภิญญากล่าว
ส่วนวาระบริษัท จีเอ็มเอ็ม บี จำกัด แจ้งเปลี่ยนระบบการให้บริการแพ็กเกจ Z Pay TV ทางกล่องรับสัญญาณ GMMz วันที่ 6 ก.พ. 59 และไม่สามารถเติมช่องรายการได้ตั้งแต่วันที่ 17 ม.ค. แล้วนั้น สำนักงาน กสทช. ได้เสนอวาระ กรณีมีการยกเลิก ZPay TV ในกล่อง GMMz ซึ่งเป็นความผิดร่วมของทั้งบริษัทจีเอ็มเอ็มแซท จำกัด และบริษัทจีเอ็มเอ็มบี จำกัด เนื่องจากบริษัทจีเอ็มเอ็มแซท เป็นผู้ให้บริการโครงข่ายไม่ได้แจ้งให้ผู้ใช้บริการทราบเป็นลายลักษณ์อักษรล่วงหน้าไม่น้อยกว่า 30 วัน ก่อนมีการเปลี่ยนแปลง ส่วนบริษัทจีเอ็มเอ็มบี จำกัด ไม่ได้แจ้งให้ผู้ใช้บริการทราบว่าไม่สามารถซื้อแพ็กเกจเพื่อเป็นสมาชิกรับชมรายการดังกล่าวได้ตั้งแต่วันที่ 17 ม.ค. 59 เป็นระยะเวลาที่น้อยกว่า 30 วัน ก่อนมีการเปลี่ยนแปลงซึ่งการกระทำของทั้ง 2 บริษัท เป็นการกระทำที่ฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามข้อ 15 วรรคแรก ของประกาศ กสทช. เรื่อง มาตรฐานของสัญญาการให้บริการโทรทัศน์แบบบอกรับสมาชิก พ.ศ. 2556 และฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามเงื่อนไขในการให้บริการที่บริษัทฯ ได้ตกลงไว้กับผู้ใช้บริการ โดยปราศจากเหตุผลอันสมควร ซึ่งถือเป็นการกระทำที่เป็นการเอาเปรียบผู้บริโภคในกิจการกระจายเสียงและกิจการโทรทัศน์โดยอาศัยการใช้เครือข่ายหรือการโฆษณาอันมีลักษณะเป็นการค้ากำไรเกินควร หรือก่อให้เกิดความเดือดร้อนรำคาญ ตามข้อ 5(7) ของประกาศ กสทช. เรื่อง การกระทำที่เป็นการเอาเปรียบผู้บริโภค ในกิจการกระจายเสียงและโทรทัศน์ พ.ศ. 2555 ดังนั้นบริษัทฯ ต้องดำเนินการจัดทำมาตรการที่เหมาะสมตามข้อ15 วรรคสอง ของประกาศ กสทช. เรื่อง มาตรฐานของสัญญาการให้บริการโทรทัศน์แบบบอกรับสมาชิก พ.ศ. 2556 ซึ่งจะต้องไม่ให้ผู้ใช้บริการต้องรับภาระเพิ่มขึ้น ซึ่งในการประชุมจะมีการถกกันในเรื่องนี้ต่อไป ส่วนวาระอื่นๆ น่าจับตา ได้แก่ การพิจารณาการให้บริการโทรทัศน์ระบบบอกรับสมาชิกระบบ MMDS ของ บริษัท อสมท. จำกัด(มหาชน)กับคู่สัญญา โดยสามารถติดตามผลการประชุมในวันจันทร์นี้…