ชวนประหลาดใจ2เรื่องคือ บอร์ดกองทุนลงมติว่าการใช้เงิน “วิจัยเรต ติ้ง’ ไม่เข้าวัตถุประสงค์

9 ตค. 58

My sympathy & moral support to khun Somchai Suwanban &Vanchai Tantivitayapitak after being sacked by ThaiPBS ‘s Policy Board today. Thanks for all tough works on ‪#‎DigitalTV & beyond. All the best from now on & for the rest at ThaiPBS after this critical change. Wait & see what’s next…

ปิดท้ายสัปดาห์นี้ด้วยเรื่องชวนประหลาดใจ 2 เรื่อง คือ บอร์ดกองทุน กสทช.(กทปส) ลงมติว่าการใช้เงิน “วิจัยเรต ติ้ง’ ไม่เข้าวัตถุประสงค์ ‘กองทุนวิจัยและพัฒนาฯ’

ดิฉันเคารพการลงมติของบอร์ดกองทุน กทปส. ที่ยืนตามความเห็นของอนุกรรมการที่ปรึกษากฎหมาย กสทช. แต่คือประหลาดใจ และ ‪#‎คหสต. เห็นต่าง เนื่องจากดิฉันเพิ่งเห็นจากข่าว เพราะ สนง. ยังไม่ได้เสนอเรื่องนี้ให้บอร์ด กสท. ทราบอย่างเป็นทางการ เอาไว้เรื่องกลับมา กสท. จะมาทวิตเรื่องนี้ยาวๆ

อย่างไรก็ตาม พอบอร์ดกองทุน กสทช. (กทปส.) มีมติว่าการ ‘วิจัยเรตติ้ง’ ไม่เข้ากับวัตถุประสงค์ ‘กองทุนวิจัยและพัฒนาฯ’ เลยนึกถึงตอนเขาให้ใช้กองทุนถ่ายทอดสดบอลโลกคืนความสุขและให้คลังยืมไปทำถนนและโครงการน้ำได้โดยไม่ขัดวัตถุประสงค์ของกองทุนวิจัยและพัฒนาฯตามกฎหมาย การตีความกฎหมาย คงเป็นเรื่องนานาจิตตัง ต่างกรรมต่างวาระจริงๆ คงยากที่เราจะเห็นเหมือนกันทุกคน ทุกครั้ง แต่ยังดีที่เรายังคิดต่างได้ในเรื่องนี้ ‪#‎กองทุน ‪#‎วิจัยเรตติ้ง …..

เรื่องสองที่ประหลาดใจและตกใจ คือข่าวการปลด ผอ.ThaiPBS และทีมบริหารยกแผงแบบฟ้าผ่าวันนี้ ขอยังไม่ให้ความเห็นกับเรื่องภายในองค์กรไทยพีบีเอส แต่รู้สึกเป็นกังวลแทนทุกฝ่ายมากขึ้นจากนี้ไป

สำหรับ กสทช.  ทางไทยพีบีเอส มีฐานะเป็นผู้รับใบอนุญาต ทั้งฐานะเป็นช่องรายการทีวีสาธารณะ และ ผู้ให้บริการโครงข่ายทีวีดิจิตอล (MUX)  ที่ตอนนี้วางโครงข่ายสัญญาณมาได้ครึ่งทางแล้ว ถือว่าในช่วง 2 ปีที่ผ่านมาทาง
@Thaipbs บริหารการวางโครงข่าย ดิจิตอลทีวีได้เร็วตามเงื่อนไขใบอนุญาต และมีประสิทธิภาพ ทำให้ กสทช.มีข้อต่อสู้ในศาลเรื่องนี้ที่ช่องทีวีดิตอลธุรกิจไปฟ้องได้

เมื่อสถานีหลักเสร็จสิ้นลงแล้ว39สถานี ครอบคลุมร้อยละ 80 ตามเงื่อนไข สองปีจากนี้คือการวางสถานีเสริม MUXอีกร้อยกว่าจุดให้สัญญาณกระจายครบตามแผน 4 ปีให้ได้ สำหรับ กสทช. ก็คงหวังว่าการเปลี่ยนทีมบริหารยกชุด ครั้งนี้ของ Thaipbs จะไม่ส่งกระทบต่อผลการดำเนินการตามเงื่อนไขใบอนุญาตเรื่องโครงข่ายทีวีดิจิตอล เพราะการบริหาร จัดการเรื่องโครงข่ายทีวีดิจิตอลของ ThaiPBS จะส่งผลกระทบต่อ กสทช.เช่นกัน ถ้าวางไม่ทันตามแผน กสทช.จะสู้คดีในศาลยากขึ้นใน 2 ปีหลังถ้าถูกฟ้อง

วันก่อนเพิ่งประชุมกับทีม PR และทีมวิศวกรของ ThaiPBS เรื่องแผนจัดงานยุติทีวีแอนะล็อกร่วมกัน 1 ธันวาคมนี้ แต่ผู้บริหารชุดเดิมคงไม่ได้อยู่ร่วมแล้ว เสียใจแทน ….

สัปดาห์หน้าจะให้ สนง.กสทช. ขอหารือกับทาง ThaiPBS ว่ารักษาการ ผอ.คนใหม่ จะยังเดินหน้างานยุติทีวีแอนะล็อกและจัดกิจกรรมร่วมกันตามแผนเดิมหรือไม่ ถ้าทาง ThaiPBS จะเดินหน้าหรือปรับแผนอย่างไร โดยเฉพาะเรื่องโครงข่าย MUX และวันเวลาการยุติทีวีแอนะล็อก ขอให้รีบแจ้ง กสทช.ด้วย

เข้าใจความรู้สึก พนง.ไทยพีบีเอส คงจะสับสนและเคว้งคว้างในช่วงต้นที่มีการเปลี่ยนม้ากลางศึก ปลดทีมบริหารยกแผง คิดว่าทางรักษาการ ผอ.คงต้องดูปัญหาเร่งด่วนก่อน สำหรับ กสทช. ในยามนี้ เรื่องเร่งด่วนก็คือเรื่องการวางโครงข่ายทีวีดิจิตอลให้เสร็จตามแผนและการเดินหน้ายุติทีวีแอนะล็อกที่ ThaiPBS ยื่นแผนมาแล้ว ทั้งในนามส่วนตัวและในนาม กสทช. ขอขอบคุณอดีต ผอ.สมชัย และทีมบริหารที่ให้ความร่วมมือกับ กสทช.ด้วยดีเสมอมาในการเปลี่ยนผ่านสู่ดิจิตอลทีวี

ในฐานะที่รู้จักคุณ @SomchaiThaiPBS มานาน ตัั้งแต่สมัยเคยวนเวียนไปแถว BBCThai World Service ที่ลอนดอน ขอแสดงความเสียใจกับเหตุการณ์ครั้งนี้และขอให้กำลังใจค่ะ ต่างฝ่ายต่างมีเหตุผลของตนเองในการอธิบายสิ่งที่เกิดขึ้น จากนี้ก็คงว่าไปตามกระบวนการกฎหมายและกลไกตรวจสอบจากสังคม ขอให้กำลังใจ ThaiPBS ทำหน้าที่เช่นเดิม ถ้าไม่มี ThaiPBS ร่วมผลักดัน กสทช. ก็คงไม่สามารถผลักดันดิจิตอลทีวีให้เกิดขึ้นได้ในวันนี้ จากนี้ก็ให้กำลังใจคนทำงานอย่างคุณ Thanakorn Suksai สู้ๆค่ะ

ไม่ว่าสุดท้ายดิจิตอลทีวีจะเดินต่อไปอย่างไร ประวัติศาสตร์เล็กๆจะบันทึกว่า คณะผู้บริหาร ThaiPBS ชุดที่ถูกปลดได้ร่วมก่อร่างสร้างมันขึ้นมาให้ประเทศไทย กสทช. ยังต้องจับมือทำงานกับ ThaiPBS ต่อไป ทั้งเรื่องโครงข่ายฯ เรื่องทีวีช่องเด็กเยาวชน+คนพิการและเรื่องทีวีชุมชน ซึ่งคณะผู้บริหารชุดนี้ที่ถูกปลดได้ตกลงไว้ คงต้องขอฝากทางบอร์ด กนย.ไว้ด้วยค่ะ ตอนนี้เลยรับเผือกร้อนต่างๆมาอยู่ในมือเต็มตัวแล้ว ส่วนเรื่องอนาคตการเป็นทีวีสาธารณะ
ของ ThaiPBS จะดีขึ้นกว่านี้หรือดีน้อยลงไป คงอยู่ที่คนในไทยพีบีเอสและสังคมติดตามตรวจสอบและตัดสินต่อไป

……

ทั้ง 2 เรื่องดังกล่าวมา คือมติบอร์ดกองทุนฯตีตกเรื่องวิจัยเรตติ้งและการปลด ผอ.ไทยพีบีเอสกับทีมวันนี้ จึงเป็นข่าวที่ทำให้รู้สึกปลงกับชีวิตและการทำงานมากขึ้นอีก……