ลุ้น! กสท. ปรับไทยพีบีเอสเสนอข่าวดาวดิน
นางสาวสุภิญญา กลางณรงค์ คณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) เปิดเผยว่า วันจันทร์ที่ 6 ก.ค. นี้ การประชุมคณะกรรมการกิจการกระจายเสียงและกิจการโทรทัศน์(กสท.) ครั้งที่ 22/2558 มีวาระการประชุมสำคัญน่าจับตา ได้แก่ เรื่องร้องเรียนจากหนังสือของคณะทำงานติดตามสื่อในกองทัพบก กรณีการออกอากาศรายการ ที่นี่ Thai PBS มีเนื้อหาไม่เหมาะสม วันที่ 25 มิ.ย. 58 ช่วงสกู๊ปข่าวนักศึกษา กลุ่มดาวดินถูกออกหมายเรียกและทำกิจกรรมบริเวณหน้าหอศิลปวัฒนธรรม และนักศึกษาอีกหลายมหาวิทยาลัยที่ถูกออกหมายเรียกจากการทำกิจกรรมวันครบรอบ 1 ปีรัฐประหารจนมีการรวมตัวกันก่อตั้งกลุ่มขบวนการประชาธิปไตยใหม่ โดยนักวิชาการที่ติดตามเรื่องวิเคราะห์ว่าสะท้อนความหมายที่มีนัยยะสำคัญหลากหลายมิติ
ต่อมา วันที่ 29 มิ.ย. 58 สำนักงาน กสทช.ได้เชิญผู้บริหารช่องไทยพีบีเอสมาชี้แจงข้อเท็จจริงต่อคณะอนุกรรมการด้านผังรายการและเนื้อหารายการ ได้มีการพิจารณาและมีมติเสนอ กสท.ว่า การออกอากาศสกู๊ปข่าวดังกล่าวมีลักษณะเป็นการให้ข้อมูลข่าวสารที่ส่อให้เกิดความสับสน ยั่วยุ ปลุกปั่นให้เกิดความขัดแย้ง ก่อให้เกิดความแตกแยก อันเป็นการต้องห้ามตามประกาศ คสช. ฉบับที่ 97/57 ลงวันที่ 18 ก.ค. 57 และฉบับที่ 103/2557 ลงวันที่ 21 ก.ค. 57 ทั้งนี้ประกาศทั้ง 2 ฉบับมีสถานะเป็นกฎหมายโดยมีเจตนารมณ์เพื่อรักษาไว้ซึ่งความสงบเรียบร้อย จึงมีผลต่อการออกอากาศที่มีผลกระทบต่อความสงบเรียบร้อยหรือศีลธรรมอันดีของประชาชน รวมทั้งต้องห้ามมิให้ออกอากาศตามมาตรา 37 แห่ง พรบ.ประกอบกิจการฯ 2551 จึงเห็นสมควรกำหนดโทษปรับทางปกครองขั้นต่ำ
นางสาวสุภิญญา กล่าวว่า มติจากอนุกรรมการก็ไม่เอกฉันท์ 4:3:1 ซึ่งไม่ทราบว่ากรณีนี้จะนับการงดออกเสียงรวมเป็นเสียงไม่เห็นด้วยหรือไม่ ตนเห็นว่าเรื่องแบบนี้ในสถานการณ์ปกติตามหลักการคือสื่อควรต้องกำกับดูแลกันเองก่อนเช่นในกรณีนี้ ควรส่งให้กรรมการนโยบายของไทยพีบีเอสที่เขามีหน้าที่ตามกฎหมายได้พิจารณาก่อน เป็นต้น แต่สิ่งที่เกิดขึ้นเป็นปรากฏการณ์ที่สะท้อนว่าไม่ปกติ คือ กสทช.ใช้อำนาจที่มีอยู่ตามกฎหมายเชิญให้ผู้รับใบอนุญาตเข้าชี้แจงหลังจากได้รับเรื่องร้องเรียนฝ่ายผู้มีอำนาจหรือความมั่นคงโดยส่วนใหญ่พบว่าเป็นเรื่องการเมือง ในขณะที่เมื่อเทียบกับเรื่องร้องเรียนอื่นๆ อย่างเช่นเนื้อหาที่เกี่ยวข้องกับการคุ้มครองผู้บริโภค การละเมิดสิทธิมนุษยชน กระบวนการก็จะยังเป็นไปตามแบบเดิม เรื่องที่ควรเร่งด่วนในการลงโทษเช่นการโฆษณาผิดกฎหมายอาหารและยากลับไม่เร่งด่วนบ้าง และโทษก็ไม่แรงเหมือนเรื่องเสรีภาพในการเสนอข่าวการเมือง ที่ผ่านมามีรายการหมายข่าว ช่อง New TV ถูกร้องเรียนมาเช่นกัน แต่อนุกรรมการและ กสท. ก็ตัดสินว่าไม่ผิด มาตรา 37 ส่วนช่อง Voice TV ไม่มีการตัดสินว่าผิดกฎหมาย แต่ช่องวอยซ์ทีวีก็ถอดรายการไปเอง จากนี้ก็มีอีกหลายช่องที่อยู่ในคิวถูกเรียกมาชี้แจง เช่น PPTV ส่งผลให้เกิดบรรยากาศแห่งความกลัว ความเกร็งในการทำหน้าที่ของสื่อมวลชน
“ตอนนี้สื่อการเมืองก็ถูกปิดไปแล้ว บางส่วนก็ลดโทนลง สื่อสีก็เบาบางลงแล้ว หากผู้มีอำนาจรัฐจะยกระดับควบคุมเข้มในสื่อฟรีทีวีมากขึ้นซึ่งปกติเขาก็ระวังตัวมากอยู่แล้วก็จะยิ่งทำให้เกร็งซ้ำซ้อน ทำงานกันไปด้วยความกลัว ส่งผลกระทบต่อ พัฒนาดิจิตอลทีวีให้เฉาลงไปอีก ผลประโยชน์ที่ผู้บริโภคจะได้รับจากการเกิดดิจิตอลทีวีก็จะน้อยลง เพราะจะไม่กล้าเสนอมุมมองที่แตกต่างจากรัฐ ทั้งนี้ กสทช.เป็นองค์กรกำกับดูแลที่อยู่ตรงกลางระหว่างภาครัฐ กับ ผู้รับใบอนุญาตของเรา หากเราไปเห็นชอบไปกับผู้มีอำนาจทางการเมืองทุกเรื่องก็เท่ากับว่าสื่อมวลชนหรือผู้รับใบอนุญาตจะไม่มีที่พึ่ง เพราะ กสทช. มีหน้าที่ตาม พรบ. ในการดูแลสิทธิเสรีภาพของผู้รับใบอนุญาต และสิทธิของผู้บริโภคในการรับรู้ข้อมูลข่าวสารที่หลากหลายด้วยเช่นกัน ส่วนตัวดิฉันพิจารณาแล้วเห็นว่าข่าวนี้ไม่เข้าข่ายขัดความผิดตามมาตรา 37 แต่อย่างใด แต่คงต้องลุ้นผลการลงมติของบอร์ด กสท” สุภิญญา กล่าว
วาระอื่นๆ น่าจับตาได้แก่ (ร่าง)โครงการความร่วมมือเพื่อสร้างการรับรู้และความเข้าใจเกี่ยวกับการรับชมโทรทัศน์ภาคพื้นดินในระบบดิจิตอลแก่ประชาชน วงเงินประมาณ 20,000,000 บาท วาระการอุทธรณ์แนวปฏิบัติในการเผยแพร่บริการโทรทัศน์ที่เป็นการทั่วไปสำหรับผู้บริการโครงข่ายโทรทัศน์(เคเบิลทีวี) วาระหลักการดำเนินการเกี่ยวกับการพิจารณาอนุญาตฯ กรณีที่ใบอนุญาตสิ้นอายุ การขอเปลี่ยนแปลงชื่อช่องรายการ หรือการขอยกเลิก กรณีปรากฏข้อเท็จจริงเกี่ยวกับการโฆษณาอาหาร ยา และผลิตภัณฑ์สุขภาพผิดกฎหมาย วาระเรื่องร้องเรียน กรณีการออกอากาศละครเรื่องชิงรักหักสวาท ออกอากาศทางช่อง 8
ส่วนกรณีที่ บ.พีช ทีวี ยื่นฟ้องคดีศาลปกครองกลาง เพื่อขอให้เพิกถอนคำสั่งเพิกถอนใบอนุญาต และยื่นคำร้องขอให้ศาลมีคำสั่งทุเลาการบังคับคำสั่งดังกล่าว นั้น ในวันจันทร์ที่ 6 ก.ค.นี้ ศาลปกครองเรียก กสทช.ไปให้ถ้อยคำการเพิ่มเติม ติดตามผลการประชุมทั้งหมดในวันจันทร์นี้ …