ใน การประชุม กสท. ครั้งที่ 11/2558 วันที่ 23 มี.ค.58 นางสาวสุภิญญา กลางณรงค์ กรรมการ กสท. ได้เห็นชอบกับข้อเสนอของสำนักงาน กสทช. และมีความเห็นเพิ่มเติมตามบันทึกที่แนบ ในวาระ 4.29 การตรวจสอบข้อเท็จจริงกรณีการเป็นผู้มีผลประโยชน์ร่วมกันของผู้รับใบอนุญาตประกอบกิจการโทรทัศน์ภาคพื้นดินในระบบดิจิตอล หมวดหมู่ข่าวสารและสาระ ด้วยระหว่างวันที่ 15 – 17 ธันวาคม 2557 บ. โซลูชั่น คอนเนอร์ (1998) จำกัด(มหาชน) “SLC” เข้าซื้อหุ้นสามัญของ บ. เนชั่น มัลติมีเดีย กรุ๊ป จำกัด(มหาชน) “NMG” จำนวน 404.94 ล้านหุ้น คิดเป็น 12.27% ของจำนวนหุ้นที่ชำระแล้ว โดยที่ NMG ถือหุ้นใน บ. เนชั่น บรอดคาสติ้ง คอร์ปอเรชั่น “NBC” 71.30% ซึ่งถือหุ้นในบริษัทเอ็นบีซี เน็กซ์วิชั่น จำกัด “NNV” 99.99% แสดงให้เห็นว่า NMG มีสถานะเป็น บ. ใหญ่ใน NNV ผู้รับใบอนุญาตฯ ตามหมวดหมู่ข่าวสารและสาระ สำนักงานได้พิจารณาแล้ว จึงเสนอต่อที่ประชุม กสท. เพื่อพิจารณา ดังนี้ 1.ผลการตรวจสอบข้อเท็จจริงกรณีการเป็นผู้ที่มีผลประโยชน์ร่วมกันของผู้รับใบอนุญาตประกอบกิจการโทรทัศน์ภาคพื้นดินในระบบดิจิตอล หมวดหมู่ข่าวสารและสาระ พบว่าการเข้าซื้อหุ้นของ SLC ใน NMG ส่งผลให้ Springnews Television และ NNV ซึ่งต่างเป็นผู้รบใบอนุญาตฯ หมวดหมู่ข่าวสารและสาระ เป็น “ผู้ที่มีผลประโยชน์ร่วมกัน” โดยมี SLC ซึ่งมีสถานะเป็นผู้มีอำนาจควบคุมผู้รับใบอนุญาตหนึ่ง เป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ของผู้มีอำนาจควบคุมของผู้รับใบอนุญาตอีกรายหนึ่งในหมวดหมู่เดียวกัน สำหรับการประกอบกิจการโทรทัศน์ในระบบดิจิตอลฯ ซึ่งนอกจากจะขัดต่อข้อ 7.2 แห่งประกาศ กสทช. เรื่อง หลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขการประมูลคลื่นความถี่เพื่อให้บริการโทรทัศน์ในระบบดิจิตอล ประเภทบริการทางธุรกิจระดับชาติ พ.ศ. 2556 แล้ว ยังขัดต่อข้อ 8.4 และ 8.5 แห่งประกาศฉบับเดียวกัน ซึ่งกำหนดสัดส่วนการกระทำที่เป็นการครอบงำกิจการโทรทัศน์ภาคพื้นดินในระบบดิจิตอลฯ โดยอาศัยอำนาจมาตรา 31 แห่ง พ.ร.บ. การประกอบกิจการกระจายเสียงและกิจการโทรทัศน์ พ.ศ. 2551 2.พิจารณาออกคำสั่งทางปกครองไปยังผู้รับใบอนุญาตให้กระทำการอย่างหนึ่งอย่างใดให้ผู้มีส่วนเกี่ยวข้องปรับลดสัดส่วนการถือครองหุ้น เพื่อแก้ไขมิให้มีความสัมพันธ์ในลักษณะการเป็นผู้ที่มีผลประโยชน์ร่วมกันของผู้รับใบอนุญาตทั้งทางตรงและทางอ้อม และไม่ก่อให้เกิดการถือครองใบอนุญาตฯในหมวดหมู่เดียวกันเกินสัดส่วนที่กำหนดตามประกาศ กสทช. เรื่อง หลักเกณฑ์และวิธีการคัดเลือกให้ใช้คลื่นความถี่ในกิจการกระจายเสียงหรือกิจการโทรทัศน์เพื่อประกอบกิจการทางธุรกิจ พ.ศ. 2556 ทั้งนี้ การดำเนินการแก้ไขดังกล่าวให้กระทำภายใน 90 วันนับแต่วันที่ได้รับคำสั่ง ทั้งนี้ กสท. มีมติ ดังนี้ ที่มาข้อมูล ลิ้งค์ www.nbtc.go.th
- ประธาน กสท.(พันเอก ดร.นที ศุกลรัตน์) และ กสทช.พันตำรวจเอก ทวีศักดิ์ งามสง่า งดออกเสียงและมีข้อสังเกตเพิ่มเติมตามบันทึกที่แนบ
- กสทช. พลโท ดร.พีระพงษ์ มานะกิจ ไม่เห็นชอบกับข้อเสนอของสำนักงาน กสทช. และมีความเห็นเพิ่มเติมตามบันทึกแนบ
- กสทช. ผศ.ดร.ธวัชชัย จิตรภาษ์นันท์ เห็นชอบกับข้อเสนอของสำนักงาน กสทช. ทั้งข้อ 1 และข้อ 2 และมีความเห็นเพิ่มเติมตามบันทึกที่แนบ
- กสทช. สุภิญญา กลางณรงค์ เห็นชอบกับข้อเสนอของสำนักงาน กสทช. ทั้งข้อ 1 และข้อ 2 และมีความเห็นเพิ่มเติมตามบันทึกที่แนบ
- การลงมติตามข้อ 41(1) ของระเบียบ กสทช. ว่าด้วยข้อบังคับการประชุมคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ พ.ศ. 2555 กำหนดให้ใช้เสียงข้างมากของคณะกรรมการผู้มาประชุม เมื่อประธาน กสท. และ กสทช.พันตำรวจเอกทวีศักดิ์ งดออกเสียง ถือได้ว่าเป็นการลงมติในเรื่องดังกล่าวแล้ว ซึ่งมีผลเท่ากับว่าไม่เห็นชอบกับข้อเสนอของสำนักงาน กสทช. ทั้งข้อ 1 และข้อ 2 กสทช. ผศ.ดร.ธวัชชัย และ กสทช.สุภิญญา เห็นชอบกับข้อเสนอของสำนักงาน กสทช. ทั้งข้อ 1 และข้อ 2 ส่วน กสทช. ดร.พีระพงษ์ ไม่เห็นชอบกับข้อเสนอของสำนักงาน กสทช. ทั้ง 2 ข้อ จึงทำให้มีมติไม่เห็นชอบกับข้อเสนอของสำนักงาน กสทช. ทั้งข้อ 1 และข้อ 2
ทั้งนี้ นางสาวสุภิญญา ได้เปิดเผยความเห็น ดังนี้ “ดิฉันเห็นชอบกับข้อเสนอของสำนักงานที่เสนอให้ออกคำสั่งทางปกครองไปยังผู้รับใบอนุญาตให้กระทำการอย่างหนึ่งอย่างใดให้ผู้มีส่วนเกี่ยวข้องปรับลดสัดส่วนการถือครองหุ้น เพื่อแก้ไขมิให้มีความสัมพันธ์ในลักษณะการเป็นผู้ที่มีผลประโยชน์ร่วมกันของผู้รับใบอนุญาตทั้งทางตรงและทางอ้อม เนื่องจากเห็นสอดคล้องกับผลการตรวจสอบข้อเท็จจริงของผู้เชี่วชาญกรณีการเข้าถือครองหุ้น NMG ของ SLC โดยมีเหตุผลสนับสนุนดังต่อไปนี้ 1. ดิฉันสนับสนุนมติของอนุกรรมการที่ปรึกษาด้านกฎหมาย กสทช. ที่เห็นว่า ข้อ 8.4 และ 8.5 ของประกาศ กสทช. เรื่องหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขการประมูลคลื่นความถี่เพื่อให้บริการโทรทัศน์ในระบบดิจิตอล ประเภทบริการธุรกิจระดับชาติ ได้กำหนดสัดส่วนการกระทำที่เป็นการครอบงำกิจการโทรทัศน์ภาคพื้นดินในระบบดิจิตอล โดยอาศัยอำนาจตามาตรา 31 แห่ง พ.ร.บ. การประกบกิจการกระจายเสียงและกิจการโทรทัศน์ พ.ศ. 2551 แล้ว กรณีจึงต้องถือว่า ข้อกำหนดข้างต้นย่อมมีผลใช้บังคับกับผู้รับใบอนุญาต ทั้งนี้ การกำหนดสัดส่วนดังกล่าวจำเป็นต้องนำหลักเกณฑ์เกี่ยวกับข้อห้ามการเป็นผู้ที่มีผลประโยชน์ร่วมกันตามข้อ 7.2 ของประกาศฉบับเดียวกันมาพิจารณาประกอบด้วย 2. ดิฉัน เห็นว่า สำนักงาน กสทช. ได้ดำเนินการในกระบวนการแสวงหาข้อเท็จจริงอย่างรอบคอบและครบถ้วน โดยเปิดโอกาสให้ผู้ที่เกี่ยวข้องได้ชี้แจงแสดงหลักฐานผ่านการประชุมจำนวน 3 ครั้ง โดยเชิญผู้แทนจาก NMG และ NNV ผู้แทนจาก SLC และ Springnews Television รวมทั้งได้เชิญผู้ทรงคุณวุฒิจากศูนย์บริการวิชาการแห่งจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และศูนย์บริการวิชาการ สถาบันพัฒนาบริหารศาสตร์ ซึ่งเป็นผู้เชี่ยวชาญในการตรวจสอบความสัมพันธ์ของผู้ขอรับใบอนุญาตที่ยื่นประมูล ตลอดรวมถึงผู้แทนจากสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (กลต.) เข้าร่วมรับฟังตลอดจนรวบรวมข้อเท็จจริง ข้อวิเคราะห์และจัดทำความเห็น ประกอบด้วย 4 ประเด็น สำคัญ ได้แก่ 1) กรณีการเข้าซื้อหุ้นของ SLC ใน NMG ก่อให้เกิดความสัมพันธ์ในลักษณะการเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ของผู้มีอำนาจควบคุมของผู้รับใบอนุญาต ตามหลักเกณฑ์ข้อห้ามการเป็น “ผู้ที่มีผลประโยชน์ร่วมกัน” โดยการพิจารณาจะต้องพิจารณาทุกทอดตลอดสาย และไม่มีการลดทอนหุ้นในแต่ละลำดับชั้น 2) หากกรณีดังกล่าวเกิดขึ้นในช่วงระยะเวลาการประมูลคลื่นความถี่เพื่อให้บริการโทรทัศน์ภาคพื้นดินในระบบดิจิตอลฯ ผู้รับใบอนุญาต NNV และ Springnews Television จะขาดคุณสมบัติในการเข้าร่วมการประมูลทันที
3) ควรมีการออกคำสั่งหรือมาตรการให้ผู้รับใบอนุญาตดำเนินการอย่างหนึ่งอย่างใดเพื่อมิให้มีความสัมพันธ์ในลักษณะการเป็นผู้ที่มีผลประโยชน์ร่วมกันระหว่างผู้รับใบอนุญาต เช่น การลดหรือเปลี่ยนแปลงสัดส่วนการเข้าถือหุ้นดังกล่าวให้ต่ำกว่าร้อยละ 10 โดยให้นับรวมหุ้นที่ถือโดนผู้ที่เกี่ยวข้องด้วยและจะต้องรักษาสัดส่วนความสัมพันธ์ระหว่างผู้รับใบอนุญาตมิให้ขัดกับหลักเกณฑ์การประมูลฯ ตลอดอายุใบอนุญาต
และ 4) ขอให้ที่ประชุมรับข้อสังเกต กรณีความสัมพันธ์ระหว่า SLC และ POLARIS เพื่อพิจารณาเพิ่มเติมหากปรากฏข้อเท็จจริง หรือเอกสารหลักฐานเพิ่มเติมในภายหลัง เพื่อตรวจสอบขั้นตอนการดำเนินการแก้ไขในการลดสัดส่วนการถือครองหุ้นตามคำสั่งที่ได้รับต่อไป
3. สำหรับหลักการของการเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ของผู้มีอำนาจควบคุมของผู้รับใบอนุญาต ซึ่งเข้าเกณฑ์การเป็นผู้ที่มีผลประโยชน์ร่วมกันนั้น จากผลการตรวจสอบข้อเท็จจริงจากผู้เชี่ยวชาญ ทำให้ประจักษ์ชัดว่า SLC ถือหุ้นของผู้รับใบอนุญาตบริษัท Springnews Television ร้อยละ 99.99 ขณะเดียวกัน SLC ไปซื้อหุ้น NMG 12.27% โดย NMG ถือ ร้อยละ 71.30 และ NBC ถือหุ้น NNV ซึ่งเป็นผู้รับใบอนุญาตร้อยละ 99.99 ดังนั้น เมื่อพิจารณาโครงสร้างการถือหุ้นย้อนขึ้นไปจะพบว่ามี SLC เป็นผู้มีอำนาจควบคุม ขณะที่ในส่วนของ NNV เมื่อพิจารณาโครงสร้างการถือหุ้นย้อนขึ้นไปจะพบว่ามีทั้ง NMG และยังพบ SLC อีกด้วย จากโครงสร้างนี้จึงแสดงให้เห็นว่า SLC อยู่ด้านบนของโครงสร้างการถือหุ้นของผู้รับใบอนุญาตฯ ทั้งสองบริษัท จึงถือว่า เป็นผู้ที่มีผลประโยชน์ร่วมกัน ทั้งนี้ในส่วนของการทอนหุ้น ดิฉันได้รับการยืนยันจากผู้เชี่ยวชาญว่าตามหลักการจะไม่ทอนหุ้น เนื่องจากเป็นหลักในการพิจารณาการถือครองหุ้นผ่านบุคคลอื่น (nominee) กรณีนี้จึงพบว่า SLC เป็นผู้ถือหุ้นรายใหญ่อยู่บนด้านบนของทั้งสองด้าน โดยต้องพิจารณาภาพรวมโครงสร้างทั้งหมด ยุบรวมและถือว่า SLC เป็นผู้มีอำนาจควบคุม
4. นอกจากนี้ สำนักงานควรตรวจสอบข้อเท็จจริงตามข้อสังเกตของผู้เชี่ยวชาญและข้อเท็จจริงที่ทางบริษัท เอ็นบีซี เน็กซ์ วิชั่น จำกัด ร้องเรียนและแสดงหลักฐานที่แสดงถึงพฤติการณ์ในการจัดสรรหุ้นเพิ่มทุนแบบเฉพาะเจาะจง รวมถึงความสัมพันธ์ระหว่าง SLC และ POLARIS เพื่อพิจารณาเพิ่มเติมหากปรากฏข้อเท็จจริงหรือเอกสารหลักฐานเพิ่มเติมในภายหลังเพื่อตรวจสอบในขั้นตอนการดำเนินการแก้ไขในการลดสัดส่วนการถือหุ้นต่อไป
5. ดิฉันมีความเห็นเพิ่มเติมว่า ในเรื่องการป้องกันการผูกขาดตามมาตรา 31 แห่ง พ.ร.บ. การประกอบกิจการฯ ในภาพรวมแม้จะไม่มีการออกประกาศที่ครอบคลุมทุกประเภทกิจการโดยตรง แต่สำหรับการประกอบกิจการโทรทัศน์ภาคพื้นดินในระบบดิจิตอล นั้น ได้มีการกำหนดไว้ในเงื่อนไขการประมูล โดยอาศัยอำนาจตามาตรา 31 ในการออกประกาศดังกล่าวเพื่อมาจำกัดสิทธิเสรีภาพผ่านการตรวจสอบคุณสมบัติของผู้เข้าร่วมการประมูล ซึ่งเกณฑ์การเข้าร่วมประมูลโดยทั่วไปมุ่งเน้นไปเพื่อป้องกันการสมยอมในเรื่องราคาเป็นสำคัญ แต่สำหรับในกรณีของการประมูลคลื่นความถี่โทรทัศน์ภาคพื้นดินในระบบดิจิตอล มีความต่างออกไป โดยเฉพาะการนำเอาเนื้อหาในส่วนมาตรา 3 มาขยายลงไปในเงื่อนไขการประมูล โดยการตรวจสอบหลายขั้นตอน เช่น ผู้มีอำนาจควบคุม การถือหุ้นไขว้ทั้งทางตรงและทางอ้อม เป็นต้น เงื่อนไขนี้จึงกำหนดขึ้นเพื่อป้องกันการผูกขาดในกิจการโทรทัศน์ภาคพื้นดินในระบบดิจิตอล ดังนั้น สำนักงานจึงควรพิจารณาหลักเกณฑ์ในการป้องกันการผูกขาดสำหรับกิจการกระจายเสียงและกิจการโทรทัศน์ประเภทอื่นๆ เช่น วิทยุ เคเบิล ดาวเทียม เป็นต้น เพื่อไม่ให้เกิดช่องโหว่ในการกำกับกิจการประเภทอื่นต่อไป
6. อย่างไรก็ตาม สำหรับการลงมติในการพิจารณาความเห็นของกรรมการครั้งนี้ เนื่องจาก กรรมการ กสท. ได้ลงมติแตกต่างกันดังต่อไปนี้
1. กสทช. สุภิญญาฯ และ กสทช. ผศ.ดร.ธวัชชัยฯ เห็นชอบข้อเสนอของสำนักงานในการพิจารณาวาระดังกล่าวพร้อมมีเหตุผลประกอบ
2. กสทช. พ.อ.ดร.นทีฯ และ กสทช. พ.ต.อ.ทวีศักดิ์ฯ งดออกเสียงพร้อมมีข้อสังเกตเพิ่มเติม
3. กสทช.พลโท ดร. พีระพงษ์ฯ ไม่เห็นชอบข้อเสนอของสำนักงานฯ พร้อมมีเหตุผลประกอบ
ดิฉันจึงประสงค์ให้สำนักงานพิจารณาระเบียบคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคม พ.ศ. 2555 และ ระเบียบฯ (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2556 ตลอดจนแนวปฏิบัติของการประชุม กสทช. ที่ผ่านมาหรือกรณีเทียบเคียง ในการพิจารณาการลงมติเสียงข้างมากและการวินิจฉัยชี้ขาดของที่ประชุม สำหรับกรณีที่เกิดขึ้นในการลงมติวาระข้างต้น โดยได้จัดบันทึกข้อความที่ สทช. 1003.9/042 ลงวันที่ 25 มีนาคม 2558 ถึงเลขาธิการ กสทช. แล้ว”
Download (Comment-NBC-11-58.pdf,PDF, Unknown)
ลำดับเหตุการณ์การลงมติ กรณี การตรวจสอบข้อเท็จจริงกรณีการเป็นผู้มีผลประโยชน์ร่วมกันของผู้รับใบอนุญาตทีวีดิจิตอล (ช่องข่าวสปริงนิวส์และเนชั่น)วันที่ 22 ธ.ค. 57 การประชุม กสท. ครั้งที่ 55/2557 วาระ 5.1 เรื่อง การเป็นผู้มีผลประโยชน์ร่วมกันระหว่างผู้รับใบอนุญาตประกอบกิจการโทรทัศน์ภาคพื้นดินในระบบดิจิตอล หมวดหมู่ข่าวสารและสาระ กสท.มีมติ ให้สำนักงาน กสทช. ศึกษาข้อมูล ตรวจสอบประเด็นข้อกฎหมายให้รอบคอบ แล้วนำเสนอที่ประชุม กสท.ทั้งนี้ อาจหารือคณะอนุกรรมการที่ปรึกษาด้านกฎหมาย กสทช. ก็ได้ หมายเหตุ ประธาน กสท. และ กสทช.พันตำรวจเอกทวีศักดิ์ งามสง่า ขอสงวนความเห็นตามบันทึกที่แนบ อ่านเพิ่มเติมคลิ้กที่นี่! วันที่ 2 ก.พ. 58 การประชุม กสท. ครั้งที่ 5/2558วาระ 3.6 (วาระ 5.3) ผลการพิจารณาของคณะอนุกรรมการที่ปรึกษากฎหมาย กสทช. ที่ประชุมเสียงข้างมาก(กสทช. พลโท ดร.พีระพงษ์ มานะกิจ กสทช. ผศ.ดร. ธวัชชัย จิตรภาษ์นันท์ และ กสทช. สุภิญญา กลางณรงค์) มีมติ ดังนี้
1.1 เมื่อประกาศประมูลดิจิตอลธุรกิจระดับชาติ ข้อ 8.4 และข้อ 8.5 ได้กำหนดสัดส่วนการกระทำที่เป็นการครอบงำกิจการโทรทัศน์ภาคพื้นดินในระบบดิจิตอล โดยอาศัยอำนาจตามมาตรา 31 แห่งพระราชบัญญัติการประกอบกิจการกระจายเสียงและกิจการโทรทัศน์ พ.ศ. 2551 แล้ว กรณีจึงต้องถือว่าข้อกำหนดตามข้อ 8.4 และข้อ 8.5 ของประกาศประมูลดิจิตอลธุรกิจระดับชาติเป็นหลักเกณฑ์ตามบทบัญญัติดังกล่าว ซึ่งย่อมมีผลใช้บังคับกับผู้รับใบอนุญาต ดังนั้น ข้อ 8.4 และข้อ 8.5 ของประกาศประมูลดิจิตอลธุรกิจระดับชาติ ยังคงมีผลใช้บังคับกับผู้เข้าร่วมการประมูลภายหลังจากที่ได้รับใบอนุญาตแล้ว ซึ่งการกำหนดสัดส่วนดังกล่าวจำเป็นต้องนำหลักเกณฑ์เงื่อนไขเกี่ยวกับข้อห้ามการเป็นผู้มีผลประโยชน์ร่วมกันตามข้อ 7.2 ของประกาศฉบับเดียวกันมาพิจารณาประกอบด้วย 1.2 เมื่อผู้รับใบอนุญาตฯ ต้องปฏิบัติตามข้อ 8.4 และข้อ 8.5 ของประกาศประมูลดิจิตอลธุรกิจระดับชาติ ซึ่งออกตามมาตรา 31 แห่งพระราชบัญญัติประกอบกิจการกระจายเสียงและกิจการโทรทัศน์ พ.ศ. 2551 ซึ่งต้องพิจารณาตามหลักเกณฑ์ว่าด้วยการเป็นผู้มีผลประโยชน์ร่วมกันแล้ว การเข้าถือหุ้นของ SLC ใน NMG หากเป็นไปในสัดส่วนที่สำนักงาน กสทช.ชี้แจง ย่อมเป็นไปตามหลักเกณฑ์ในมาตรา 31 แห่งพระราชบัญญัติการประกอบกิจการกระจายเสียงและกิจการโทรทัศน์ พ.ศ. 2551 ซึ่งสำนักงาน กสทช.ต้องดำเนินการต่อไปเพื่อพิจารณาว่าเป็นการถือครองธุรกิจในกิจการประเภทเดียวกันตามที่ กสทช.กำหนดหรือไม่ จึงมีมติให้สำนักงาน กสทช.โดยสำนักกฎหมายกระจายเสียงและโทรทัศน์(มส.) และสำนักส่งเสริมการแข่งขันและกำกับดูแลตนเอง(สส.) ตรวจสอบและทำความเห็นกรณีการถือหุ้น 1.3 การเข้าถือครองหุ้นของ NMG โดย SLC ไม่อยู่ในบังคับของกฎหมายว่าด้วยการประกอบกิจการกระจายเสียงและกิจการโทรทัศน์ แต่หากส่งผลกระทบต่อการประกอบกิจการกระจายเสียงและกิจการโทรทัศน์ของผู้รับใบอนุญาต กรณีดังกล่าว กสทช.อาจใช้อำนาจตามข้อ 14(27) ของประกาศ กสทช.เรื่อง หลักเกณฑ์และวิธีการอนุญาตการให้บริการกระจายเสียงหรือโทรทัศน์ พ.ศ. 2555 ในการกำหนดเงื่อนไขการอนุญาตประกอบกิจการเพิ่มเติมได้ 2. ให้สำนักงาน กสทช. โดย สำนักกฎหมายกระจายเสียงและโทรทัศน์(มส.) และสำนักส่งเสริมการแข่งขันและกำกับดูแลตนเอง(สส.) เรียกผู้เกี่ยวข้องมาชี้แจง แสดงเอกสารหลักฐาน เพื่อตรวจสอบ วิเคราะห์ พร้อมเสนอความเห็น กรณี การถือหุ้นระหว่าง NMG และ SLC แล้วเสนอต่อที่ประชุม กสท.เพื่อพิจารณาต่อไป หมายเหตุ ประธาน กสท. และ กสทช.พันตำรวจเอกทวีศักดิ์ งามสง่า ขอสงวนความเห็นตามบันทึกที่แนบ อ่านเพิ่มเติมคลิ้กที่นี่! วันที่ 2 มี.ค. 58 การประชุม กสท. ครั้งที่ 8/2558 วาระ 4.20 ผลการตรวจสอบข้อเท็จจริงกรณีการเป็นผู้มีผลประโยชน์ร่วมกับผู้รับใบอนุญาตประกอบกิจการโทรทัศน์ภาคพื้นดินในระบบดิจิตอล หมวดหมู่ข่าวสารและสาระ ที่ประชุม กสท. มีมติให้นำเข้าที่ประชุม กสท. เป็นวาระเพื่อพิจารณาต่อไป วันที่ 16 มี.ค. 58 การประชุม กสท. ครั้งที่ 10/2558 วาระ 4.17 การตรวจสอบข้อเท็จจริงกรณีการเป็นผู้มีผลประโยชน์ร่วมกันของผู้รับใบอนุญาตประกอบกิจการโทรทัศน์ภาคพื้นดินในระบบดิจิตอล หมวดหมู่ข่าวสารและสาระ ที่ประชุม กสท. มีมติให้นำเข้าที่ประชุม กสท. เป็นวาระเพื่อพิจารณาต่อไป วันที่ 23 มี.ค. 58 การประชุม กสท. ครั้งที่ 11/2558 วาระ 4.29 การตรวจสอบข้อเท็จจริงกรณีการเป็นผู้มีผลประโยชน์ร่วมกันของผู้รับใบอนุญาตประกอบกิจการโทรทัศน์ภาคพื้นดินในระบบดิจิตอล หมวดหมู่ข่าวสารและสาระ ด้วยระหว่างวันที่ 15 – 17 ธันวาคม 2557 บ. โซลูชั่น คอนเนอร์ (1998) จำกัด(มหาชน) “SLC” เข้าซื้อหุ้นสามัญของ บ. เนชั่น มัลติมีเดีย กรุ๊ป จำกัด(มหาชน) “NMG” จำนวน 404.94 ล้านหุ้น คิดเป็น 12.27% ของจำนวนหุ้นที่ชำระแล้ว โดยที่ NMG ถือหุ้นใน บ. เนชั่น บรอดคาสติ้ง คอร์ปอเรชั่น “NBC” 71.30% ซึ่งถือหุ้นในบริษัทเอ็นบีซี เน็กซ์วิชั่น จำกัด “NNV” 99.99% แสดงให้เห็นว่า NMG มีสถานะเป็น บ. ใหญ่ใน NNV ผู้รับใบอนุญาตฯ ตามหมวดหมู่ข่าวสารและสาระ กสท. มีมติดังนี้
|