21 เม.ย. 58
My comment after being intimidated for another lawsuits.
Getting used to it by now. (This case is related to the shareholders dispute btw #SLC vs.#NMG over NBTC’s regulation and media ownership for digital TV)
ความเห็นจากกรณีข่าววันนี้
*SLC ร้องปธ.กสทช. ขอความเป็นธรรม “สุภิญญา – ธวัชชัย” ไม่เป็นกลาง – ชี้นำเนชั่นฟ้องศาลปกครอง*
……
การฟ้องร้องมติทางปกครองที่ออกโดย กสทช.ทุกกรณีเป็นสิทธิ์ของผู้มีส่วนได้เสีย เป็นเรื่องปรกติมากที่จะเสนอแนะผู้ที่เจอคำสั่งทางปกครองฟ้อง
ไม่ใช่กรณีแรกด้วย ก่อนนี้ ดิฉันก็เคยเสนอให้ @ThaiPBS ฟ้อง มติ กสทช.กรณีม.37 และ @ThaiPBS ก็ใช้ความเห็นดิฉันอ้างในคำฟ้อง กสทช. ด้วยซ้ำ
ถ้าใครยังไม่รู้ อยากบอกให้รู้ว่า เขาออกแบบ กสทช.มาให้ทำงานแบบ commissioner กรรมการแต่ละคนมีความเห็นเป็นอิสระ สามารถทำบันทึกความเห็นต่างได้ และความเห็นต่างของกรรมการเหล่านั้น กฎหมายบังคับให้ต้องเปิดเผยต่อสาธารณะ เพื่อสังคมร่วมตรวจสอบ และผู้มีส่วนได้ส่วนเสียสามารถใช้อ้างอิงต่อได้
รวมถึงการใช้สิทธิ์อ้างความเห็นต่างของกรรมการใน กสทช. ดังกล่าวไปฟ้องศาล หรือ กลไกต่างๆ อย่างป.ป.ช. ได้เช่นกัน ดังนั้นเป็นเรื่องปรกติมาก
อีกทั้ง กรรมการ กสทช. 10 คนที่เหลือมีอำนาจศักดิ์ศรีเท่ากันในทางกฎหมาย คือมี 1 เสียงเท่ากันหมด ประธานไม่ได้ใหญ่กว่า กรรมการคนใดคนหนึ่ง
ในกฎหมาย ไม่ได้ให้อำนาจประธาน กสทช. มาตรวจสอบกรรมการกันเอง แต่ ประธานมีหน้าที่ตรวจสอบเลขาธิการ และ สำนักงาน ก็ควรทำหน้าที่นั้นให้เต็มที่
ส่วนกลไกตรวจสอบการทำงานของกรรมการ กสทช. คือ กตป. สว. (หรือ สนช.) ปปช. และ ศาลปกครอง ซึ่งผู้ได้รับผลกระทบทุกรายมีสิทธิ์ไปฟ้องศาลต่างๆ
ในฐานะกรรมการ กสทช.คนหนึ่ง ดิฉันยืนยันว่า เรามีหน้าที่ต้องทำงานอย่างเป็นอิสระ เต็มที่ ยึดมั่นในหลักการเรื่องกำกับดูแลตามกติกา/อุดมการณ์
ในทางกลับกัน ถ้าดิฉันและ กสทช. Thawatchai Jittrapanun อยู่ฝ่ายเสียงข้างมาก แล้วมติไปกระทบทางช่องสปริงนิวส์ ก็จะแนะนำว่าให้ฟ้องศาลได้ด้วยเช่นกัน
ดิฉันเคยทวิตไว้นานแล้วก่อนจะมีการลงมติกรณี #SLC #NMG ว่า ไม่ว่าผลจะออกมาทางใด ก็ต้องมีคู่กรณีฝ่ายหนึ่งฝ่ายใดไปฟ้อง ซึ่งเป็นสิทธิ์ที่ทำได้
ประหลาดใจที่มีคนไปฟ้องประธาน กสทช. กรณีการแสดงความเห็นของดิฉันและ กสทช. @Thawatchai_NBTC อีกแล้ว แต่ก็เข้าใจได้ค่ะ ชินแล้ว มีแบบนี้บ่อย
การฟ้องร้อง ร้องเรียน ฟ้องศาลหรืออะไรก็ตาม มองมุมบวกว่าเป็นข้อดี ดิฉันถูกฟ้องมาตลอดชีวิตการทำงาน แต่ผลก็คือทำให้เราแข็งแกร่งยิ่งขึ้น
โดยเฉพาะถ้าเราเชื่อมั่นในการทำงานที่สุจริตเป็นที่ตั้ง ใช้หลักวิชาการ และ เหตุผล นำเสนอข้อเท็จจริงและความเห็นอย่างเปิดเผย ตรงไปตรงมา
…….
จริงๆประเด็นนี้ ดิฉันแสดงความคิดเห็นเชิงหลักการตามปรกตินะ ไม่ได้เยอะอะไร เน้นข้อกฎหมายเป็นหลักไม่ค่อยมีทวิตดราม่าเท่ากรณีคู่ขนานก่อนนี้ LoL
ก็ว่ากันไปค่ะ มีเรื่องหลักการต่อสู้กันต่อ กรณีนี้ก็ยังไม่จบ สนง.ส่งเรื่องให้อนุกรรมการที่ปรึกษากฎหมายฯ ตีความการนับคะแนนกรณีการงดออกเสียง
หลังจากอนุกรรมการที่ปรึกษากฎหมายฯ ตีความประเด็น *การงดออกเสียงว่านับเป็นเสียงไม่เห็นชอบ* ใช่หรือไม่แล้ว เรื่องจะกลับมาที่บอร์ดใหญ่ กสทช.อีก
จากนั้นรอบอร์ดใหญ่ กสทช. เคาะว่า การรับรองมติการนับคะแนนของ กสท.กรณีดังกล่าว ชอบหรือไม่ แล้วค่อยดูกันอีกทีว่าเรื่องจะเป็นอย่างไรต่อไปค่ะ
กรรมการ กสทช. ท่านใดจะรับรองว่า การงดออกเสียง คือเสียงที่ลงมติว่าไม่เห็นชอบ ก็แล้วแต่ดุลยพินิจ กสทช.ท่านนั้นค่ะ ดิฉันไม่รับรองมติแบบนี้
สุดท้ายตามกระบวนการ Rule of law ก็ต้องไปจบที่ศาลทุกเรื่องที่มีข้อโต้แย้งอยู่ดี ส่วนกระบวนการทางสังคม ใครถูกใครผิด เรื่องแบบนี้ ก็ต้องปล่อยให้สังคมเขาตัดสินเองค่ะ //