กสทช.อาจแจกกล่องฯชุมชนแออัดแทนแลกคูปอง
กสทช. เดินเครื่องแจกคูปองประชาชน กลุ่มตกสำรวจ อาทิ มีชื่อในทะเบียนบ้านแต่ไม่ใช่เจ้าบ้าน ทะเบียนบ้านชั่วคราว บ้านเช่า ผุดแนวคิดแจกกล่องดิจิตอลชุมชนแอดอัด แทนการแลกปกติ
วันนี้(4 พ.ย.) ที่โรงแรมเซ็นจูรี่ คณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ(กสทช.) น.ส.สุภิญญา กลางณรงค์ กสทช.และคณะกรรมการกิจการกระจายเสียงและกิจการโทรทัศน์(กสท.)ด้านคุ้มครองผู้บริโภค เปิดเผยว่า ในงานเสวนา เรื่อง นโยบายการแจกคูปองทีวีดิจิตอลให้แก่กลุ่มผู้อยู่อาศัยในทะเบียนบ้านแต่ไม่เป็นเจ้าบ้านและผู้มีรายได้น้อย นั้น ล่าสุดข้อมูลของกรมการปกครองพบว่า มีจำนวน 2.3 ล้านครัวเรือน เป็นกลุ่มที่ตกสำรวจ มีชื่อในทะเบียนบ้านแต่ไม่ใช่เจ้าบ้าน อาทิ เจ้าบ้านเสียชีวิตแต่ไม่มีการแจ้งเพื่อขอเปลี่ยนชื่อเจ้าบ้าน บ้านเช่า เป็นต้น รวมถึงกลุ่มทะเบียนบ้านชั่วคราว อาทิ มีเจ้าบ้านอาศัยอยู่ แต่ไม่ใช่เจ้าของกรรมสิทธิ์ที่ดิน จำนวนประมาณ 79,000 ครัวเรือน กสทช.จะออกหลักเกณฑ์เพื่อแจกคูปองส่วนลด 690 บาท โดยคาดว่า จะแจกไปพร้อมกับล็อตที่ 2 ที่จะแจกให้อีก 21 จังหวัดจำนวน 3.6 ล้านครัวเรือนในช่วงประมาณเดือนพ.ย.57
ส่วนกลุ่มผู้มีรายได้น้อย กลุ่มชุมชนแออัด อาจจะพิจารณาเป็นโครงการพิเศษ เนื่องจากกรมการปกครองไม่มีฐานข้อมูลในทะเบียนราษฎร์ โดยต้องหารือร่วมกับสำนักงานตรวจเงินแผ่นดิน(สตง.) ในการหาวิธีการแจกคูปองโดยจะไม่ใช้วิธีการแจกคูปองผ่านไปรษณีย์ตามวิธีการปกติ แต่อาจจะหาแนวทางให้บริษัทเอกชนร่วมประมูลเพื่อแจกกล่องดิจิตอลให้กับประชาชนกลุ่มนี้แทน และกลุ่มประชาชนผู้ที่ทะเบียนบ้านว่าง ไม่มีรายชื่อในทะเบียนบ้าน อาทิ บ้านจัดสรร คอนโดมีเนียม เป็นต้น ซึ่งมีอยู่ประมาณ 6.9 ล้านครัวเรือน อาจจะพิจารณาไม่แจกคูปองในตอนนี้ เนื่องจากหลักเกณฑ์การได้รับสิทธิ์ของกลุ่มดังกล่าวยังไม่เป็นที่แน่ชัด โดยเฉพาะตัวสิทธิ์ที่จะได้รับคูปองควรเป็นของใคร ระหว่างเจ้าของที่อยู่อาศัย กับผู้อยู่อาศัย ไปจนถึงหากมีการใช้สิทธิ์แล้วลูกบ้านผู้อยู่อาศัยสามารถเคลื่อนย้ายอุปกรณ์รับชมทีวีดิจิตอลที่มาจากการใช้สิทธิ์ได้หรือไม่ เป็นต้น
อย่างไรก็ตามกรณีที่บริษัท คราวน์ เทค แอดวานซ์ ซึ่งเป็นผู้จำหน่ายกล่องดิจิตอลแบนด์ เอเจดี ซึ่งเป็นหนึ่งในผู้ที่เข้าร่วมโครงการคูปองกสทช.ได้ร่วมมือกับพรรคการเมือง เป็นจุดใช้สิทธิ์แลกคูปองทีวีดิจิตอล ได้ให้สำนักงานกสทช. ตรวจสอบข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้น และประสานไปยังสำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง(กกต.) เข้ามาดูแลในส่วนของความเหมาะเช่นเดียวกัน