คณะอนุกรรมการคุ้มครองผู้บริโภคมีมติ
ไม่ต่อใบอนุญาตช่องดาวเทียมที่โฆษณาผิดกฎหมายอาหารและยาซ้ำซาก
คณะอนุกรรมการคุ้มครองผู้บริโภคด้านกิจการกระจายเสียงและกิจการโทรทัศน์ มีมติไม่ต่อใบอนุญาตให้กับช่องดาวเทียม OHO Channel และช่องรายการ Mix 24 Variety หลังพบการโฆษณาอาหารและยาที่ฝ่าฝืนกฎหมายว่าด้วยอาหารและกฎหมายว่าด้วยยา อนุกรรมการคุ้มครองผู้บริโภคฯ ชี้ว่าจงใจกระทำความผิดที่เป็นอันตรายต่อสุขภาพอย่างร้ายแรงต่อผู้บริโภค ชงเข้าบอร์ดจันทร์นี้ และทำหนังสือเตือนอีก 20 ช่องรายการที่มีโฆษณาผลิตภัณฑ์สุขภาพหลอกลวงผู้บริโภคให้ระงับโฆษณาดังกล่าวด้วย
น.ส.สุภิญญา กลางณรงค์ กรรมการ กสทช. ในฐานะประธานคณะอนุกรรมการคุ้มครองผู้บริโภคด้านกิจการกระจายเสียงและกิจการโทรทัศน์ กล่าวว่า ในการประชุมคณะอนุกรรมการคุ้มครองผู้บริโภคฯ ครั้งล่าสุดเมื่อวันอังคารที่ผ่านมา มีวาระสำคัญพิจารณาใบอนุญาตของผู้ขอรับใบอนุญาต 2 รายที่เคยได้รับเรื่องร้องเรียนว่ามีการโฆษณาผลิตภัณฑ์อาหารและยาที่ไม่ได้รับอนุญาต คือ บริษัทอาธีน่า มีเดีย จำกัด ออกอากาศชื่อช่อง OHO Channel และบริษัทมิกซ์ วาไรตี้ จำกัด ออกอากาศชื่อช่องรายการ Mix 24 Variety ซึ่งในการประชุม กสท. เมื่อวันที่ 20 มกราคม ที่ผ่านมามีมติให้คณะอนุกรรมการคุ้มครองผู้บริโภคฯ พิจารณาผู้ประกอบการที่มีข้อร้องเรียนเกี่ยวกับการกระทำอันเป็นการขัดหรือแย้งกับการกำกับดูแลด้านการคุ้มครองผู้ใช้บริการ ให้พิจารณาภายใน 30 วัน เพื่อนำเสนอผลการพิจารณาไปประกอบการพิจารณาออกใบอนุญาตต่อ กสท.อีกครั้งหนึ่ง หลังจากนั้นคณะอนุกรรมการคุ้มครองผู้บริโภคฯ ได้เชิญผู้แทนทั้ง 2 บริษัทมาชี้แจง ร่วมกับผู้แทนจากสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) มาร่วมกันหาแนวทางแก้ไขปัญหาการร้องเรียนดังกล่าว และบริษัททั้งสองได้ส่งหนังสือชี้แจงมาว่าจะควบคุมและป้องกันการเผยแพร่โฆษณาผลิตภัณฑ์ ซึ่งก่อนหน้านี้ อย.และ กสทช.เคยทำหนังสือแจ้งระงับการออกอากาศหรือโฆษณาผลิตภัณฑ์ดังกล่าวไปแล้ว แต่จากการติดตามการออกอากาศระหว่างวันที่ 1-7 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมายังคงพบการโฆษณาอาหารและยาที่ผิดกฎหมายผลิตภัณฑ์เดิม
ที่ประชุมคณะอนุกรรมการคุ้มครองผู้บริโภคฯ จึงมีมติเป็นเอกฉันท์ว่าควรเสนอต่อ กสท.ไม่ต่อใบอนุญาตให้กับผู้ประกอบการทั้ง 2 ราย หลังจากที่ใบอนุญาตเดิมสิ้นสุดลง เนื่องจากมีการกระทำความผิดตามกฎหมายว่าด้วยอาหารและยา และถือว่าเป็นการเอาเปรียบผู้บริโภคฯ ตามประกาศ กสทช. เรื่องการกระทำที่เป็นการเอาเปรียบผู้บริโภคในกิจการกระจายเสียงและโทรทัศน์ พ.ศ.2555 และพบการกระทำความผิดโฆษณาผลิตภัณฑ์สุขภาพเสริมอาหารที่หลอกลวงและเป็นอันตรายต่อสุขภาพของผู้บริโภค ซึ่งจะนำมติดังกล่าวเสนอในการประชุม กสท. ในวันจันทร์หน้านี้(17 ก.พ. 57)
ด้าน นายแพทย์ไพศาล ดั่นคุ้ม รองเลขาธิการคณะกรรมการอาหารและยา กล่าวว่า ที่ผ่านมา อย. ประสานงานและทำงานร่วมกับ กสทช. โดยตลอด โดยเฉพาะกรณีที่มีผู้บริโภคร้องเรียนการโฆษณาผลิตภัณฑ์อาหารหรือยาทางดาวเทียม เคเบิ้ลทีวี หรือวิทยุกระจายเสียงต่างๆ ซึ่งเมื่อ อย. ตรวจสอบพบว่าไม่ได้รับอนุญาตการโฆษณาหรือขึ้นทะเบียนผลิตภัณฑ์กับ อย. จะมีการส่งหนังสือแจ้งระงับโฆษณาไปยังผู้ประกอบการ และส่งมายัง กสทช.เพื่อให้ดำเนินการตามกฎหมายที่ กสทช.มีอำนาจในการกำกับด้วย ในช่วงเวลา 2 ปีที่ผ่านมาได้วางการทำงานประสานงานที่เป็นระบบมากขึ้น สำหรับโทรทัศน์ดาวเทียมทั้ง 2 ช่อง อย. ได้รับการประสานจาก กสทช. เนื่องจากมีผู้บริโภคร้องเรียนเข้ามา จากการตรวจสอบแล้วพบว่า มีการโฆษณาผลิตภัณฑ์สุขภาพฝ่าฝืน มาตรา 41 พ.ร.บ.อาหาร พ.ศ. 2522 อย.ได้ส่งหนังสือให้ระงับโฆษณาและให้มาจ่ายค่าปรับตามกฎหมาย แล้ว รวมถึงแจ้งข้อมูลการติดตามตรวจสอบโฆษณาผลิตภัณฑ์สุขภาพช่องดาวเทียมที่เคยได้รับเรื่องร้องเรียนมาให้ กสทช.ประกอบการพิจารณาด้วย
“ผมดีใจที่ข้อมูลจาก อย. เป็นประโยชน์ในการทำงานกำกับสื่อ ของ กสทช. และร่วมกันแก้ไขปัญหาการโฆษณาผลิตภัณฑ์สุขภาพที่ผิดกม.ในสื่อร่วมกันมาอย่างดีในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา ผมหวังว่าปัญหานี้จะค่อยๆ คลี่คลาย และผู้ประกอบการสื่อคงจะให้ความร่วมมือในการระมัดระวังการโฆษณาผลิตภัณฑ์สุขภาพที่ผิดกฎหมายมากยิ่งขึ้น ซึ่งจะเป็นผลดีต่อผู้บริโภคสื่อที่ไม่ต้องรับสื่อที่หลอกลวง โอ้อวดเกินจริง ” รองเลขาธิการ อย.กล่าวทิ้งท้าย
ผศ.ดร.เอื้อจิต วิโรจน์ไตรรัตน์ รองประธานคณะอนุกรรมการคุ้มครองผู้บริโภคด้านกิจการกระจายเสียงและกิจการโทรทัศน์ กล่าวว่า ในการพิจารณาวาระนี้คณะอนุกรรมการฯ พิจารณากันอย่างรอบคอบ และมีมติให้เสนอต่อ กสท. ไม่ควรต่อใบอนุญาตให้กับผู้ประกอบการทั้ง 2 ราย เนื่องจากมีข้อมูลยืนยันจาก อย.ว่ามีการกระทำความผิดจริง และยังคงกระทำผิดอยู่เช่นเดิม ถือว่าจงใจกระทำความผิดดังกล่าว หากยังคงให้มีการออกอากาศต่อไปมีความเสี่ยงต่อผู้บริโภคที่จะถูกหลอกลวงจากโฆษณาต่างๆ เหล่านี้ เพราะเราเคยพบว่ามีผู้บริโภคไม่น้อยที่หลงเชื่อซื้อผลิตภัณฑ์ไปแล้วต้องเสียสุขภาพ เสียทรัพย์ และมีบางรายถึงกับเสียชีวิตก็มี
ในฐานะรองประธาน และนักวิชาการดูแลเรื่องสื่อ และเป็นผู้บริโภค อย.ก็ทำหน้าที่มาอย่างยาวนาน และน่าเห็นใจ เพราะมีช่วงสุญญากาศ ได้เกิดสื่อมากมาย เรื่องที่เข้ามาสู่อนุฯ คือ วิทยุกระจายเสียง และโทรทัศน์ดาวเทียม จากที่มอนิเตอร์ พบว่ามีหลายช่องเปิดขึ้นมา
นอกจากนี้คณะอนุกรรมการคุ้มครองผู้บริโภคฯ รับทราบว่าสำนักงาน กสทช.ได้แจ้งเตือนผู้ประกอบกิจการช่องดาวเทียมไปแล้วอีก 20 ช่องรายการเพื่อขอให้ระงับการโฆษณาผลิตภัณฑ์อาหารและยาที่เป็นการฝ่าฝืนกฎหมายว่าด้วยอาหารหรือกฎหมายว่าด้วยยา ซึ่ง อย.ได้แจ้งเข้ามาว่าทั้ง 20 ช่องรายการนี้มีการกระทำความผิดจริง และแจ้งข้อมูลไปยังกลุ่มงานการอนุญาตประกอบกิจการ ที่ดูแลเรื่องการให้ใบอนุญาตแล้ว ดังนั้นเรื่องร้องเรียนที่คณะอนุกรรมการคุ้มครองผู้บริโภคฯ พิจารณาหากพบการกระทำที่เป็นความผิดจะถูกบันทึกไว้ซึ่งจะมีผลในการต่อใบอนุญาตครั้งต่อไปด้วย
—————————————–
ข่าวเกี่ยวข้อง
“สุภิญญา” ยืนกรานไม่ต่อไลเซนส์ช่อง “OHO-Mix 24 Variety”
“สุภิญญา”ชงกสท.ไม่ต่อใบอนุญาตทีวีดาวเทียม 2 ช่อง โฆษณาผิดกม.
ยึดไลเซนส์โฆษณาเกินจริง อนุฯ คุ้มครองผู้บริโภคฟัน 2 ช่องดาวเทียมผิดกฎหมาย