Sum up : 27 ม.ค. 57
Long summary today on a very disturbing Satellite TV’s signal interference that has continued, new running number for 24 digital terrestrial TV channels & my condolence to the victim of violence and what happened yesterday. Still have a little hope for a better solution & outcome.
Human rights should be upheld from all sides at all levels. Hate speech could not be easily regulated by now but everyone must refrain themselves more. Tolerance must come with freedom of all to express & interact.
วันนี้สะบักสะบอมกับเรื่องร้องเรียนสัญญาณทีวีดาวเทียมรบกวน ดูเหมือนเจ้าหน้าที่ สนง.กสทช. ที่พยายามตรวจสอบคลื่นทุกวันจะเอาไม่อยู่แล้ว มีข้อเสนอจากกรรมการบางท่านให้ยกระดับการการแก้ปัญหาเรื่องนี้ร่วมกับหน่วยงานอื่นด้านความมั่นคงแล้วเพราะเป็นการตั้งใจกวนสัญญาณดาวเทียมแห่งชาติที่หนักหน่วงขึ้นเรื่อยๆ คืบหน้าอย่างไรจะแจ้งต่อไปค่ะ รับทราบความคับข้องใจของทุกท่าน ยอมรับว่า กสทช.อย่างเดียวคงเอาไม่อยู่แล้วในสมรภูมิข้อมูลข่าวสารรอบนี้ อย่างไรก็ตามแนะนำให้ท่านติดตามทางอินเทอร์เน็ตดีที่สุด (แต่ก็ได้เฉพาะบ้านที่เข้าถึงเน็ต) เพราะในเวลานี้สัญญาณอินเทอร์เน็ตยังไม่ถูกรบกวนหนัก อาจมีสะดุดบ้างบางช่วง แต่ดีกว่าดาวเทียม
ความคืบหน้าเรื่องเบาะแสการกวนสัญญาณทีวีดาวเทียม ซึ่่งสนง.ได้ข่าวกรองมาจากหลายฝ่าย ส่งรถออกไปตรวจที่โน่นที่นี่ แต่คาดว่าหลุมพราง วันนี้ได้รับแจ้งข่าวเชิงลึกว่าองค์กรใดบ้างที่ต้องสงสัยสมคบคิดการกวนสัญญาณ ถ้าเป็นจริงประเทศไทยเสียหายป่นปี้ ดังนั้น กสทช.ต้องมีหลักฐานชัดเจน ข้อมูลที่ได้เชิงลึกวันนี้เป็นข่าวกรอง จากหน่วยอื่นที่กสทช.ขอความช่วยเหลือไป คนทำมืออาชีพสุดๆ เครื่องมือพร้อม น่าจะมีฐานที่มั่นไม่ใช่รถโมบาย ส่วนตัวไม่ค่อยอยากเชื่อข่าวกรองนี้ว่าเป็นจริง อย่างที่บอกถ้าเป็นจริง ภาพลักษณ์ของประเทศไทยคงเสียหายมาก ในเวลานี้คงกล่าวหาเขายาก จนกว่าจะมีหลักฐาน
ความพยายามแก้ปัญหาเรื่องสัญญาณดาวเทียมเป็นหน้าที่ เหมือนตอนพยายามแก้ปัญหาเรื่องจอดำบอลยูโร กติกา Must carry ก็ยุ่งแบบนี้ ลุ้นกันทุกคืนในการแก้ปัญหา ไม่ได้เกี่ยวกับจุดยืนส่วนตัวทางการเมือง เพราะตนเองก็ไม่ได้คิดเหมือนสิ่งที่ถูกนำเสนอผ่านช่องบลูสกายเสมอไป แต่ต้องแก้เพราะเป็นหน้าที่ ผู้บริโภคเดือดร้อนจากระบบการสื่อสารขัดข้อง
……………………………….
วันนี้มีงานประกาศหมายเลขช่องใหม่ของฟรีทีวีในระบบดิจิตอล ประเภทธุรกิจ นับถอยหลังยุติเลขช่องอะนาล็อก 3-5-7-9-11 หมายเลขช่องใหม่ของฟรีทีวีดิจิตอลจะมี 48 ช่อง 1-12 คือช่องสาธารณะ 13 – 36 คือ ช่องธุรกิจ 37 – 48 คือช่องบริการชุมชน (ท้องถิ่น) ดังนั้นคนดูจะค่อยๆลบเลือนการจดจำช่องอะนาล็อกแบบเดิม ที่เรียกกันช่อง 3 ช่อง 7 ช่อง 9 จะค่อยๆปรับเป็นช่องใหม่ที่ต้องทำความคุ้มเคยกับคนดูใหม่ ตัวเลขคงไม่สำคัญเท่าเนื้อหา แต่ผู้ประกอบการหลายกลุ่มให้ความสำคัญกันไม่น้อย หลายบริษัทตั้งใจประมูลให้ชนะที่หนึ่งเพื่อเลือกเลขช่องก่อน วันนี้เป็นการจับจองหลายเลขช่องก่อน แต่ใบอนุญาตอย่างเป็นทางการยังไม่ออกนะคะ เพราะต้องรอ 24 บริษัททำตามเงื่อนไขที่ระบุในใบอนุญาตก่อน ใบอนุญาตจะแลกกับสิทธิและเสรีภาพในการใช้คลื่นเพื่อออกอากาศไปอีก 15 ปี แต่ก็ต้องแลกกับการจ่ายเช็คค่าใช้คลื่นงวดแรก
ยังไม่ทันเริ่มออนแอร์ มีการโยนหินถามทางจากผู้ชนะการประมูลว่าขอชะลอการจ่ายเงินได้ไหม คำตอบคือ ถ้าได้ กสทช.เตรียมติดคุกก่อนเลยฐานแก้กติกาเอื้อ ถ้าจะปรับกติกาต้องปรับตั้งแต่ก่อนการประมูลแล้ว เพื่อความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย แต่ถ้าปรับหลังที่17รายชนะการประมูลมาแล้ว คนรับผิดคือ กสทช. ในอดีตการปรับแก้สัญญาสัมปทานเป็นเรื่องใหญ่คอขาดบาดตาย เปลี่ยนมาเป็นระบบใบอนุญาต ถ้าไปปรับแก้กติกาเอื้อเอกชน กสทช.ก็โดนแน่นอน มาถึงจุดนี้ The show must go on (air)! กติกาและเงื่อนไขการประมูลว่ามาอย่างไรก็ว่าไปตามนั้น ให้กำลังใจทุกรายสำหรับการเริ่มต้นใหม่ของฟรีทีวี
………………………………….
ขอแสดงความเสียใจต่อเหตุความรุนแรงที่เกิดขึ้นเมื่อวานนี้ด้วยค่ะ ยังหวังว่าคงพอมีทางออกที่จะไม่นำไปสู่การปะทะกันของประชาชน แม้ดูเหมือนริบหรี่ลงไป
ปรกติไม่ค่อยโพสต์เรื่องการเมือง เพราะเรื่องงาน กสทช.ก็รับไม่ค่อยไหวแล้ว ไม่พร้อมจะดีเบตกับใคร นอกจากเสียสมาธิแล้วยังกระทบกับงานให้ใขว้เขว
ส่วนตัวเชื่อในเรื่องสิทธิเสรีภาพ การเลือกตั้งก็เป็นสิทธิ์ การชุมนุมก็เป็นสิทธิ์ การออกอากาศทางดาวเทียมก็เป็นสิทธิ์ การมีชีวิตก็เป็นสิทธิ์ อะไรที่เป็นการขัดขวางสิทธิเสรีภาพของพลเมือง ส่วนตัวจะอึดอัดเศร้าใจเสมอ รวมทั้งข่าวความรุนแรงคนบาดเจ็บเสียชีวิต วันนี้ก็เศร้าลึกๆทั้งวัน แต่มีหน้าที่เรื่องใดก็ทำหน้าที่ของตนเองไป
มีคนบอกว่าความเกลียดชังเป็นผลของการปลุกปั่นผ่านสื่อคือด้านมืดของเสรีภาพ กสทช.ก็ต้องรับผิดชอบที่ปล่อยให้เป็นแบบนี้ ถามว่าแล้วจะให้เป็นแบบใด ไม่มีใครอยากให้ประเทศไทยไปไกลแบบรวันดาหรืออะไร แต่ถามว่าในยุคข้อมูลข่าวสารที่คนตื่นตัวเลือกข้างหนักขนาดนี้ การปิดกั้นไม่ได้บรรเทาปัญหาลงเลย
มีบทความใน นสพ.เขียนถึง กสทช. ต้องรับผิดชอบกับการที่ปล่อยปละให้มีทีวีการเมืองปลุกปั่นกันมากมายจนหยุดไม่อยู่แล้ว ถามว่าแล้วจริงๆใครหยุดได้
ถ้าเราปิดหมดทุกช่องแล้วปัญหาจะลดลงจริง ก็คงน่าทำ แต่มันไม่ใช่ ไม่ว่าทางไหนปัญหามันก็ไม่ยุติง่ายแล้ว ทำได้เพียงบรรเทา ชะลอหรือเร่งเร้าวิกฤต ดังนั้นในเวลานี้ ส่วนตัวขอใช้กรอบสิทธิเสรีภาพ สิทธิมนุษยชนเป็นหลักยึด เราปกป้องสิทธิ์ของเรา และเราไม่ละเมิดสิทธิ์คนอื่น
สิ่งที่ต้องมาควบคู่เสรีภาพคือความอดทนอดกลั้นเสมอ เมื่อเราถูกลิดรอนสิทธิ์แล้วเราเป็นทุกข์ เพื่อนของเราที่ถูกลิดรอนก็เป็นทุกข์ เราต่างอดกลั้น เมื่อใดความอดทนอดกลั้นสิ้นสุดลง เมื่อนั้นย่อมนำไปสู่ความรุนแรงทางกายภาพและความสูญเสียแน่นอน การใช้คำพูดแบบ hate speech อาจเป็นความรุนแรงทางวาจารูปแบบหนึ่ง ถ้าสังคมมีความอดทนอดกลั้นก็จะไม่เป็นไร แต่เราทุกคนต้องมีวุฒิภาวะมากๆ
ณ จุดนี้ กล่าวตามความจริง กสทช.คงไม่สามารถกำกับ hate speech ได้ง่าย เพราะปรากฏอยู่ทั่วไปแล้ว แต่ในนามส่วนตัวขอฝากให้ทุกฝ่าย ’กำกับตนเอง’ หน้าที่ในการแก้ปัญหาสัญญาณล่มเป็นของ กสทช. ถ้ายังแก้ไม่ได้ก็ถูกด่าต่อไป แต่หน้าที่ในการกำกับเสรีภาพผ่านสื่อเป็นของทุกท่านว่าแค่ไหนจึงพอดี…