กสท. เตรียมออกนโยบายคุ้มครองผู้บริโภคในฟรี – เพย์ทีวี
จับตาวาระ กสท. จันทร์นี้ (16 ก.ย.56) กสท. เตรียมออกนโยบายการคุ้มครองผู้บริโภคฟรีทีวี(ดิจิตอล) 24ช่อง และการออก(ร่าง)ประกาศฯมาตรฐานสัญญาคุ้มครองผู้บริโภคทีวีบอกรับสมาชิก//และเตรียมหารือนำรายได้จากการจำหน่ายซองประมูล 49 ชุด สมทบการจัดประมูลทีวีดิจิตอลครั้งนี้
นางสาวสุภิญญา กลางณรงค์ กรรมการ กสทช. เปิดเผยวันจันทร์นี้ ที่ประชุมคณะกรรมการกิจการกระจายเสียงและกิจการโทรทัศน์(กสท.) เตรียมพิจารณาวาระ (ร่าง)แนวปฏิบัติ เรื่อง การรับและพิจารณาเรื่องร้องเรียนของผู้รับใบอนุญาตประกอบกิจการโทรทัศน์ ในระบบดิจิตอล ประเภทบริการทางธุรกิจะดับชาติ ที่จะใช้เป็นแนวปฏิบัติสำหรับสำหรับผู้ชนะการประมูลทีวีฯในการที่จะคุ้มครองผู้บริโภคฟรีทีวีดิจิตอลภาคพื้นดินต่อไป ส่วนกิจการทีวีแบบบอกรับสมาชิก (pay tv) เคเบิ้ล ดาวเทียม กสท.เตรียมออก (ร่าง)ประกาศกสทช. เรื่องมาตรฐานสัญญาการให้บริการโทรทัศน์แบบบอกรับสมาชิก พ.ศ. … หลังนำผลการประชุมแสดงความคิดเห็นกลุ่มย่อย และข้อเสนอจากอนุกรรมการด้านกฎหมายและอนุฯคุ้มครอง ที่ได้เสนอความเห็นเพิ่มเติมประกอบมาพิจารณา ก่อนมีมติและเสนอที่ประชุม กสทช.ต่อไป ซึ่งร่างประกาศฯ ดังกล่าว ถือเป็นหัวใจสำคัญของการคุ้มครองสมาชิกที่ต้องทำ สัญญาในกิจการทีวีที่ต้องจ่ายเงินทั้งหลาย
นางสาวสุภิญญา กล่าวว่า “หลักจากที่นโยบายการคุ้มครองผู้บริโภคถูกผลักดันให้เกิดขึ้น จนในที่สุดร่างฯต่างๆที่เกี่ยวข้องกับกลไกลการคุ้มครองผู้บริโภค ได้เข้าสู่การพิจารณาของบอร์ด กสท. ต้องขอบคุณกลุ่มงานที่เกี่ยวข้องทั้งกลุ่มงานกฎหมาย และกลุ่มงานผู้บริโภค รวมถึงผู้ประกอบการที่สนับสนุนแนวทางนี้และให้ความร่วมมือมาโดยตลอด”
นอกจากนี้ยังมีวาระอื่นๆน่าสนใจ ได้แก่ ความเห็นคัดค้านขององค์การกระจายเสียงและแพร่ภาพสาธารณะแห่งประเทศไทย หรือ ไทยพีบีเอส ต่อ (ร่าง)ประกาศ กสทช. เรื่องหลักเกณฑ์การกำกับดูแลเนื้อหารายการฯ รวมถึงวาระเรื่องเพื่อทราบของเรื่องร้องเรียนต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับเนื้อหาตามมาตรา 37 ที่ยังไม่มีการพิจารณา เนื่องจากกำลังอยู่ในช่วงระหว่างการร่างกติกาให้ชัดเจน ส่วนวาระสุดท้ายที่จะมีการลงมติ คือ การขออนุมัติใช้รายได้จากการจำหน่ายเอกสารการประมูลคลื่นความถี่เพื่อให้บริการโทรทัศน์ในระบบดิจิตอล ประเภทบริการทางธุรกิจระดับชาติ เพื่อเป็นค่าใช้จ่ายสำหรับการดำเนินการที่เกี่ยวข้องกับการจัดประมูลฯ ซึ่งจากการเปิดขายเอกสารการประมูลระหว่างวันที่ 10 – 12 ก.ย.ที่ผ่านมา มีผู้ซื้อทั้งสิ้นจำนวน 49 ซองๆละ 1,000,000 บาท(ไม่รวมภาษี7%) คิดเป็นเงิน 49,000,000บาท รวมราคาสุทธิ 52,430,000บาท (ภาษี) ทั้งนี้ นางสาวสุภิญญาฯ เห็นว่าน่าจะนำรายได้นี้มาใช้ในเรื่องการทำความเข้าใจให้ความรู้ผู้บริโภคในทีวีดิจิตอลด้วย(public campaign) ส่วนผลการประชุมทั้งหมดเป็นอย่างไรต้องจับตา..