“สมเกียรติ อ่อนวิมล” จวกยับผลการทำงาน 1 ปี กสทช.ไร้ประโยชน์สาธารณะและประโยชน์จับต้องได้ จี้เรียกคืนคลื่นเพื่อจัดสรร ด้าน “พิรงรอง รามสูต” ย้ำผลักกรอบกำกับดูแล แนะ กสทช.ทุกคนต้องคุยกัน ไม่ใช่ต่างคนต่างทำเพื่อสร้างผลงานให้ตัวเอง…
เมื่อวันที่ 24 ธ.ค. นายสมเกียรติ อ่อนวิมล รองประธานกรรมการบริหารสปริงนิวส์ กล่าวในงานเสวนา NBTC Public Forum ครั้งที่ 11 หัวข้อ 1 ปี กสทช. กับความสมหวังหรือไม่สมหวังของสังคมไทยว่า สิ่งที่ไม่เกิดขึ้นตลอดเวลา 15 ปีที่ผ่านมา คือ สิ่งที่เป็นประโยชน์สาธารณะ และผลประโยชน์ที่จับต้องได้ ซึ่งเสียหายนับหมื่นล้านบาท ขณะที่ภาพรวมในการออกใบอนุญาต 3จี ต้องประมูลให้ได้ราคามาก แต่พอออกมาได้น้อยก็ถูกตำหนิ และ กสทช.ไม่ได้เขียนในเงื่อนไขการประมูลว่าจะให้ผู้ได้รับใบอนุญาตทำอะไรให้ เกิดประโยชน์สาธารณะบ้าง
รองประธานกรรมการบริหารสปริงนิวส์ กล่าวต่อว่า สิ่งที่ กสทช.ควรทำ คือ เร่งกระบวนการคืนคลื่นให้เร็วขึ้นแล้วจัดสรรใหม่ให้เป็นไปตามกฎหมาย รัฐธรรมนูญ อีกทั้งเรื่องบรอดแบนด์ ทุกประเทศที่เข้าประชาคมเศรษฐกิจอาเซียนทุกโรงเรียนต้องเข้าถึงในปี 2558 ขณะที่อินโดนีเซียมีใช้ฟรีเกือบ 2 ปีแล้ว นอกจากนี้ยังผิดหวังการกำกับดูแลวิทยุรายใหม่ (วิทยุชุมชน) ที่ยังไม่ได้จดทะเบียน ยังไม่มีประสิทธิภาพ-ประชาชนได้รับผลกระทบคลื่นรบกวน รวมทั้งคุณภาพเนื้อหา
ขณะที่เรื่องการประมูลทีวีดิจิตอล กสทช.ต้องเข้าใจว่าทีวีผ่านดาวเทียมใช้เงินในการผลิตงานเท่ากัน ถ้าจะผลิตงานให้มีคุณภาพ จะมาบอกว่าทีวีช่องไหนเป็นช่องใหญ่ช่องเล็กไม่ได้ ทำอย่างไรใบอนุญาตทีวีช่องต่างๆ จะมีสัดส่วนผกผัน ถ้าใบอนุญาตสูง ช่องรายการควรจะต่ำ ควรขึ้นอยู่กับคุณภาพ อย่างไรก็ตามที่ผ่านมามีกระแสข่าวลือว่า กสทช.รับฟังความคิดเห็นสาธารณะ และมีธงที่จะทำ แต่ไม่ทำตามที่รับฟัง ซึ่งเป็นข่าวลือที่จริง
นางสาว พิรงรอง รามสูต คณะนิเทศศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย กล่าวว่า ในฐานะอนุกรรมการหลายชุด จากเห็นการทำงาน ภาพรวมสิ่งที่เห็น คือการผลักกรอบ กำกับดูแล ส่วนตัวมองเห็นว่า ในแง่การสร้างกรอบต้องประเมินปัญหา เพราะเป็นสูญญากาศมาก่อน ไม่มีหน่วยงานกำกับ โดยเฉพาะด้านบอร์ดคลาส ต่อมาระบุปัญหา จากนั้นดูเป้าหมายว่าจะจัดการอย่างไร แล้วจึงดูระบอบที่กำกับ ตามด้วยเครื่องมือในการกำกับดูแล และสุดท้าย กสทช.ทุกคนต้องคุยกัน ไม่ใช่ต่างคนต่างทำเพื่อสร้างผลประโยชน์ให้กับตนเอ
ข้อมูลข่าวจาก ไทยรัฐ